ยอดส่งมอบยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นเรือธง Porsche 911 พุ่งขึ้นเกือบ 30%
ผลประกอบการเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขจำนวนรถยนต์ใหม่รวม 130,598 คันที่ได้ส่งมอบ ถึงมือลูกค้าทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนแรกของปี 2018 คือสิ่งยืนยันความสำเร็จของ Porsche AG ที่สามารถ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกว่าสถิติในปีที่แล้วด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 3% ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2018 เป็นช่วงเวลาที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท
ปอร์เช่ พานาเมร่า (Porsche Panamera) คือรุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด
หลังจากเดือนมิถุนายนผ่านพ้นไป ปอร์เช่สามารถส่งมอบรถสปอร์ตทัวริ่ง 4 ประตูรุ่นดังกล่าว ได้เป็นจำนวนกว่า 20,500 คัน เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าในส่วนของ ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) นั้น ยังคงรักษาอัตราการเติบโตโดยเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 28% คิดเป็นจำนวน 21,400 คัน สำหรับรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดต่อเนื่องมาตลอดคือ ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ที่ 46,600 คัน ตามมาด้วยปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) ที่ 28,700 คัน
“ปีนี้เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระโอกาสครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งองค์กร จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพวกเราทุกคน ที่ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ยนตรกรรมสปอร์ตที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเรามีแนวโน้มของอัตราการเติบโตที่ดี เยี่ยมมาก” ข้างต้นคือคำกล่าวของ Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้รับผิดชอบส่วนงานขายและ การตลาด Porsche AG “สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสามารถเอาชนะใจผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วโลก”
ยอดจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศเยอรมนี ในช่วงครึ่งแรกของปี 2018 เพิ่มขึ้นถึง 11% และในส่วนของทวีปยุโรปเพิ่มขึ้น 9% ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับปอร์เช่จากยอดจำหน่ายกว่า 33,363 คันตามมาด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ี 29,421 คัน ทั้งนี้ยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง 7% ในจีนเป็นผลจากมาตรการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 ภายหลังจากมาตรการ ดังกล่าวได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ ยอดจำหน่ายจะกลับมาสูงขึ้นจากจำนวนการสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเช่น เดียวกัน
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นตลาดหลักโดยเฉพาะจีนและ สหรัฐอเมริกา คือสิ่งท้าทายเราในช่วงเวลานี้ ในส่วนของทวีปยุโรปเรากำลังจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ยานยนต์ให้ตอบรับกับมาตรการควบคุมอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จากการเติบโตของเราในช่วง 6 เดือนแรก ทำให้เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานได้ในระดับสูงเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา” Von Platen กล่าวเสริม