ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ พร้อมลุยตลาดรถบิ๊กไบค์ ตั้งเป้า 3,100 คันในปีนี้
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2445 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ โดยมอเตอร์ไซค์ของไทรอัมพ์ มีจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศ และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 750 รายทั่วโลก
BENEWSONLINE.COM ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณจักรพงษ์ ศาติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ถึงแผนการดำเนินงานและกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดรถบิ๊กไบค์ที่นับวันจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า มอเตอร์ไซค์ Triumph ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคสงครามโลก ตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่แบรนด์ในตลาด ในประเทศไทยมีผู้นำเข้ามาจำหน่ายหลายราย ซึ่งไม่ได้มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งปี 2550 คุณดอม เหตระกูล ผู้หลงใหลในแบรนด์ Triumph เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อบริษัท บริทไบค์ จำกัด ดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำยอดขายได้กว่า 300 คันในปี 2557
ในปี 2558 บริษัทแม่จึงตัดสินใจเข้ามาทำตลาดรถไทรอัมพ์ในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นการเติบโตและการสร้างแบรนด์ที่จะทำได้ชัดเจนมากกว่า ซึ่งที่จริงแล้ว ไทรอัมพ์ ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2543 ก่อตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและส่งไปยังประเทศอังกฤษ จนถึงปัจจุบันได้ขยายเป็น 3 โรงงาน ทั้งผลิตชิ้นส่วนประกอบ และผลิตรถไทรอัมพ์ มีพนักงานถึง 1,200 คน จนกระทั่งปี 2559 จึงเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ถึงผลิตจำหน่ายในประเทศไทย จะทำให้มีราคาที่ต่ำลง และจุดนี้เองคือที่มาของการจัดตั้ง บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของการดำเนินธุรกิจนั้น เมื่อบริษัทแม่เข้ามา บริษัท บริทไบค์ ก็เปลี่ยนจากผู้นำเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ และมีบริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) เป็นผู้ดูแลสินค้า 4 ประเภท คือ จักรยานยนต์ไทรอัมพ์ อะไหล่ ชุดแต่ง และบริติช พรีเมี่ยม ซึ่งได้แก่สินค้าไลฟ์สไตล์ เสื้อผ้า แฟชั่น และได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพูดถึงยอดขาย จะเห็นได้ว่าตลาดรวมของรถบิ๊กไบค์จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 คัน แต่รถไทรอัมพ์ จัดเป็นกลุ่มพรีเมียมบิ๊กไบค์ ที่มีตลาดรวมอยู่ประมาณ 6,000 คัน ในปี 2560 เติบโตจากปีก่อนประมาณ 7% มียอดขายรวม 2,832 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 16% ส่วนปี 2559 มียอดขายรวม 2,400 คัน ซึ่งถือว่าเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวม สำหรับปีนี้ถ้าไม่มีอะไรพลิกผัน คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% โดยไทรอัมพ์ ตั้งเป้ายอดขายที่ 3,100 คัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 10%
คุณจักรพงษ์ ยังได้กล่าวถึงแผนงานการตลาดในปีนี้ว่า บริษัทแบ่งแผนออกเป็นระยะ เริ่มต้นด้วยการวางกลยุทธ์ด้านราคาสินค้า ต่อมาเป็นการขยายตัวแทนจำหน่าย ในปีที่แล้วเน้นที่การนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ส่วนปีนี้จะเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส ขับขี่ ไทรอัมพ์ทุกคน รวมถึงอยากให้ลูกค้าคิดถึงไทรอัมพ์ว่าไม่ใช่แค่รถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ซึ่งการแข่งขันในตลาดนั้น เรื่องราคาจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร เราจึงหันมาเน้นทางด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ความคุ้มค่าและการจัดกิจกรรมเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านบริษัทได้จัดทริปเพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง โดยแต่ละดีลเลอร์จะจัดกิจกรรมเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง
Triumph มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 15 แห่งทั่วประเทศ ในปีนี้จะเน้นการปรับปรุงให้ทุกโชว์รูมออกแบบและควบคุมคุณภาพตามข้อกำหนดและมาตรฐานของ ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด ทั้งด้านการจัดจำหน่ายที่มีรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นให้เลือกชม ลูกค้าสามารทดลองขี่ได้ทุกรุ่น มีโซนเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมให้เลือกซื้อ รวมถึงมีส่วนการบริการหลังการขายแบบครบวงจร
“ปัจจุบันตลาดบิ๊กไบค์ในเมืองไทยเติบโตรวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญอยากให้ผู้ขับขี่มีความรู้ความเข้าใจหลักการขับขี่ที่ถูกต้องมากขึ้น พัฒนาการของผู้ขับขี่ จากเดิมจักรยานยนต์จะมีเครื่องยนต์ 110-150 cc. แต่ปัจจุบันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น 300-500 cc. ผู้ขับขี่เริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น นิยมไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ แต่อยากให้มีใบขับขี่แยกออกมาเป็นรถบิ๊กไบค์โดยเฉพาะ เพื่อให้มีความชัดเจน ปลอดภัย และอุบัติเหตุก็จะน้อยลง” คุณจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
