นิสสัน ประกาศแผน 5 ปี พร้อมมั่นใจเติบโตได้ถึง 23%
นิสสัน ประกาศวิสัยทัศน์สำหรับ 5 ปีข้างหน้า มุ่งเน้นการรุกทำตลาดรถยนต์และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเต็มที่ ยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าทำให้การผนึกกำลังกับพันธมิตรเกิดประโยชน์สูงสุด
นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์สอดคล้องกับแผนระยะกลางระดับโลกของนิสสันในชื่อ M.O.V.E 2022 ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2560 ภายใต้แผนงานเพื่อการเติบโตดังกล่าว นิสสัน คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ปรับปรุงอันดับของนิสสันในด้านความพึงพอใจของลูกค้า และทำให้การผนึกกำลังพันธมิตรเกิดประโยชน์สูงสุด
มร. อันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนิงานในอีก 5 ปีข้างหน้าว่า “นิสสันเป็นแบรนด์ยานยนต์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว เป็นปีที่มีการเติบโตของค่ายรถยนต์มากที่สุด นิสสันครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.3% ไปอยู่ที่ 6.9% ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ โดยมี นิสสันอัลเมร่า นิสสันมาร์ช และนิสสันโน๊ต เป็นปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จสามารถทำส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในเซ็กเมนต์นี้ นอกจากนี้ เรายังมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปจนถึงปี 2565”
นิสสันพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การทำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยไปจนถึงการลงทุนพัฒนาผู้จำหน่าย ประเทศไทยยังมีความสำคัญมากขึ้นในฐานะที่เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตในระดับโลก พร้อมกับเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคและเป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของนิสสัน ซึ่งทั้งหมดช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท
นิสสันลงทุนไปมากกว่า 4.4 พันล้านบาทในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาและส่งออกรถยนต์มากกว่า 880,000 คันไปยังกว่า 114 ประเทศในช่วง 10 ปีหลัง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของการผลิตรถยนต์ของนิสสันและทำให้นิสสันมีตำแหน่งที่มั่นคงสำหรับอนาคต
ทิศทางการขับเคลื่อนสู่ปี 2022
นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) มีแผนงานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต โดยวิสัยทัศน์ระยะ 5 ปีของเราสอดคล้องเป็นอย่างดีกับแผนงานของนิสสันในระดับโลกที่มีชื่อว่า M.O.V.E 2022 ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมยานยนต์ (Mobility), ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน (Operational Excellence), การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Value to Customers) และระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Electrification)
นิสสันได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ นิสสัน นาวารา ปี 2018 ซึ่งเป็นรถกระบะรุ่นเดียวในประเทศไทยที่มาพร้อมกล้องมองรอบทิศทาง (Around View Monitor) รวมถึงจีที-อาร์ รถซูเปอร์สปอร์ตของนิสสัน
แผนระยะกลางที่จะขับเคลื่อนควบคู่ไปกับแผนระดับโลกของนิสัน
ประการแรก จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักในปี 2020 ประการที่ 2 มุ่งเน้นความพึงพอใจของผู้บริโภคให้อยู่ในความชื่นชอบ 3 อันดับแรก และ 3 เดินหน้าผนึกกำลังกับมิตซูบิชิในด้านการจัดซื้อ การขนส่ง และการบริการด้านอื่น ๆ
แผนงานดังกล่าวยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมอบการบริการที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าด้วยการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงผู้จำหน่าย รวมถึงโชว์รูม Nissan Retail Environmental Design Initiative (NREDI) เพื่อมอบการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และเดินหน้าตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการแนะนำนิสสัน ลีฟ ใหม่ภายในปีงบประมาณนี้
“สำหรับการดำเนินงานในอนาคต นิสสันคาดการณ์ว่า ด้วยสภาพตลาดปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมจะมีความมั่นคงและมีอัตราเติบโตสูงขึ้น 5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ในปีงบประมาณ 2561 ของเรา (เดือนเมษายน พ.ศ. 2561-มีนาคม พ.ศ. 2562) เราคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 950,000 คัน ด้วยแนวโน้มด้านบวกเช่นนี้ ผมมั่นใจว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นถึง 23% ส่วนแบ่งตลาดและจำนวนการผลิตจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” มร. บาร์เตส กล่าวสรุป