มาสด้า-เอ็มควอเทียร์ จัดงานแฟชั่นโชว์ ไฮสตรีทแบรนด์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี
มาสด้า-เอ็มควอเทียร์ จัดงานแฟชั่นโชว์ไฮสตรีทแบรนด์ “เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เฟียร์สแฟชั่น เอพพิโซด 2”เนรมิตมิลเลอร์รันเวย์กว่าร้อยเมตร นำเสนอไฮสตรีทแฟชั่นกว่า 40 แบรนด์ นำกองทัพศิลปินดารา นางแบบ เซเลบริตี้ และอินฟลูเอ็นเซอร์กว่าร้อยชีวิคมาร่วมสร้างสีสัน
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติญี่ปุ่น ตอกย้ำความเป็นรถยนต์ที่ออกแบบดีไซน์โดดเด่นมีชีวิตชีวา ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ไฮสตรีท แบรนด์ “เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เฟียร์สแฟชั่น เอพพิโซด 2” ภายใต้คอนเซ็ปต์ เดอะ รีเฟลกชั่นส์ เนรมิตมิลเลอร์รันเวย์กว่าร้อยเมตร พร้อมเทคนิคแสงสีเสียงนำเสนอไฮสตรีทแฟชั่นจากแบรนด์ดังกว่า 40 แบรนด์ สะท้อนตัวตนของลูกค้าระดับไฮเอนด์ มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่นหรูหราเหนือระดับ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตร ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์กลางแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพมหานคร นำกองทัพศิลปินดารา นางแบบ เซเลบริตี้ และอินฟลูเอ็นเซอร์ กว่าร้อยชีวิตมาร่วมสร้างสีสันภายในงาน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การจัดแสดงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ประจำปีที่ทางมาสด้าได้ร่วมกับเอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์สร้างสรรค์ขึ้น หลายท่านอาจจะมองว่าแฟชั่นกับรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่มีความแตกต่างกัน แต่โดยเนื้อแท้แล้วมีรากฐานเดียวกัน ซึ่งเริ่มมาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การออกแบบ แล้วนำไปสู่การผลิตเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจสูงสุด มาสด้าออกแบบรถยนต์ภายใต้ปรัชญา โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม สิ่งสำคัญคือเรามองว่ารถยนต์นั้นเป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ หากแต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนเอกลักษณ์ของบุคคล
สุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่นนั้นแสดงให้เห็นถึงความหรูหราสง่างามที่ไม่สามารถมองหาจากที่ไหนได้ ซึ่งสามารถอธิบายถึงการเจริญเติบโตที่มีความสมดุลอย่างยอดเยี่ยม ความสวยงามแบบไร้ขีดจำกัด ที่ไม่มีสิ่งอื่นใดที่มากจนเกินไป วัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นส่วนมากมีพื้นฐานมากจากคอนเซ็ปต์นี้ คือ มีความเรียบง่ายอย่าง “less is more” หรือ การออกแบบด้วยการลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ดูเรียบง่าย แต่สุขุมและยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งการเดินแฟชั่นในครั้งนี้ได้นำเอาคอนเซ็ปต์ “Less Is More” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยนำเอาคู่สีสุดคลาสสิคทุกยุคสมัย “Red, Black & White” เน้นการแต่งตัวที่อิงกับความเท่ห์ของผู้สวมใส่ สะท้อนผ่านสีขาว สีดำ และเพิ่มความสดใสของโชว์ด้วยสีแดง โดยมีสองสาวพี่น้องสุดฮอต เฟย์-พรปวีณ์ และ ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ นำทีมเคียงคู่มากับรถอเนกประสงค์เอสยูวี ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สีแดง โซล เรด คริสตัล
“มาสด้า มุ่งมั่นพัฒนาด้านสุนทรียศาสตร์ เรายังคงยึดถือคติค่านิยมและความเชื่อลักษณะนี้สำหรับรถยนต์ในอนาคต ซึ่งเรายังคงสร้างสรรค์การออกแบบที่เหนือระดับในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน พร้อมกับความมีชีวิตชีวาที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของความเป็นมาสด้า พวกเรามีเป้าหมายอย่างชัดเจนถึงปรัชญาแห่งการออกแบบที่ได้รวบรวมความงดงามสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงการพัฒนาการเรียนรู้ตั้งแต่สมัยโบราณที่มีความสง่าผ่าเผยแต่แฝงไปด้วยความละเอียดอ่อน รูปลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าจึงมิใช่เป็นเพียง “คตินิยมศิลปะญี่ปุ่น” ในความหมายแบบเรียบง่าย แต่คือการอธิบายถึงแก่นแท้ขององค์ประกอบเบื้องต้นจากสุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงการบรรยายความเรียบหรูสง่างามในรูปแบบใหม่” นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากการแสดงแฟชั่นโชว์แล้วมาสด้ายังได้นำรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สีใหม่ล่าสุด สีแดง โซล เรด คริสตัล มาจัดแสดงภายในงานด้วยเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าได้ยลโฉมความสง่างามของยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมควบคู่ไปกับงานแฟชั่นโชว์สุดตระการตาในครั้งนี้ พร้อมรับชมมินิคอนเสิร์ตจากซุปเปอร์สตาร์ประเทศไทย เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร, วงไทเทเนียม และ ดา เอ็นโดรฟิน
