วันเดียวเที่ยวใกล้กรุง กับ FORD EVEREST
เหนื่อยกันมาทั้งสัปดาห์ พอถึงวันหยุดก็อยากจะไปลั๊ลลาให้หายเหนื่อย แต่จะให้ไปไกลก็คงไม่ไหว ‘เที่ยวตาม (อำเภอ) ใจ’ ขอไปแบบใกล้ ๆ สบาย ๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเมื่อคิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจคว้ากุญแจเจ้าเพื่อนคู่ใจขับออกไปเที่ยว แถบชานเมืองนี่ละกัน ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางแบบไม่มีจุดหมาย หรือจะเรียกว่าเจออะไรก็แวะก็น่าจะได้
นครปฐม คือเป้าหมายหลักของเราในวันนี้ ด้วยเหตุที่เป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ บวกกับไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทางนานนัก นครปฐมจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนกรุงนิยมไป แต่จะไปไหนดีนี่สิปัญหา ‘คิดอะไรไม่ออกบอกอากู๋’ ก็แล่นเข้ามาในสมองทันที หาไปหามาก็มาสะดุดกับที่นี่ “พิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิคมิวเซียม” อยู่ใกล้ ๆ แถววัดงิ้วรายนี่เอง จะรอช้าทำไมไปกันสิคะ
หลังจาก Set GPS บนหน้าจอของรถเรียบร้อย เจ้าเพื่อนคู่ใจก้พาเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาทางถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านทางต่างระดับเพชรเกษม แล้วไปเลี้ยวขวาที่พุทธมณฑลสายแปด เพื่อตรงไปก็ได้ หรือจะไปทางเส้นศาลายา ผ่านหน้า ม.มหิดล แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามทางจนถึงแยกสถานีรถไฟงิ้วราย เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟไปนิดเดียว จะเจอเจษฎาเทคนิคมิวเซียมอยู่ทางด้านขวามือ จะว่าไปเทคโนโลยีของเจ้า Ford Everest ก็ช่วยทำให้การเดินทางของเราง่ายขึ้นทีเดียว
เจษฎาเทคนิคมิวเซียม (Jesada Technik Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์รถโบราณที่มีแทบทุกรุ่น ทุกยุคสมัย รถโบราณที่เราเห็นในหนัง ในโฆษณา บางคันก็ก็มาจากที่นี่แหละค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดยคุณเจษฎา เดชสกุล ที่มีความหลงใหลในเครื่องยนต์กลไกมาตั้งแต่เด็ก เริ่มสะสมรถโบราณคันแรกเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นเมื่อปี 2549
พิพิธภัณฑ์รถโบราณแห่งนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักหรือนักสะสมรถยนต์เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสถานที่ที่มีรถโบราณให้เดินชมมากมายไม่ว่าจะเป็นรถ ‘ไมโครคาร์’ หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ‘รถการ์ตูน’ นิยมใช้ในทวีปยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเป็น BMW Isetta, Fiat 500, Mini Comtesse ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในพิพิธภัณฑ์เลยก็ว่าได้
ถัดไปเป็น ‘คลาสสิคคาร์’ รถในตำนานความทรงจำของช่วงวัยแต่ละคน ที่สำคัญต้องอายุ 30 ปีขึ้นไปนะถึงจะได้จัดอยู่ในกลุ่มรถประเภทนี้ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่เราค่อนข้างจะคุ้นหูกันอยู่แล้ว อาทิ Volkswagen, Austin, Daimler, Lincoln, หรือแม้แต่ Ford ที่เราใช้อยู่ก็มีเหมือนกันนะ ในส่วนนี้เสมือนเป็นต้นตระกูลของรถแต่ละค่ายเลย
สายมอเตอร์ไซค์ก็ไม่น้อยหน้า เดินไปเดินมาเจอเจ้า ‘สกูตเตอร์’ จอดเรียงรายเป็นร้อยคัน สกูตเตอร์ คืออะไร?? หลายคนอาจจะยังสงสัย สกูตเตอร์ คือรถมอเตอร์ไซค์ที่มีที่โล่งระหว่างเบาะนั่งกับแฮนด์จับ สามารถใช้เท้าข้ามไปได้ ใครยังนึกไม่ออกก็ให้นึกถึง Vespa ไว้ นั่นแหละสกูตเตอร์ละ
นอกจากนี้ยังมีจักรยาน สามล้อ รถบัส หัวจักรรถไฟพลังไอน้ำ เครื่องบิน อื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ไม่สามารถหาดูได้ที่ไหนมาจัดแสดงไว้ด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยไม่มีค่าเข้าชม แต่ถ้าจะมาเป็นหมู่คณะ หรือมาทัศนศึกษา แนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ เพราะทางพิพิธภัณฑ์จะได้เตรียมวิทยากรไว้สำหรับบรรยายและให้ความรู้เกี่ยวกับรถโบราณรุ่นต่าง ๆ
เดินกันจนเหนื่อยไปหาอะไรเย็น ๆ กินกันดีกว่า โดดขึ้นเจ้า FORD EVEREST ได้ ก็ขับออกไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองนครปฐม ตั้งใจว่าจะหาร้านกาแฟริมแม่น้ำนั่งพักทานอะไรให้ชื่นใจสักหน่อย ลัดเลาะไปตามสวน วนไปวนมาเป็นชั่วโมงจนกระทั่งสัญญาณเตือนรูปถ้วยกาแฟบนหน้าปัทม์เด้งขึ้นมา พร้อมกับหน้าจอ GPS ที่แจ้งว่ามีจุดพักร้านกาแฟ หรือปั๊มน้ำมัน บริเวณใกล้เคียงตรงไหนบ้าง นั่นหมายถึงว่าเราขับมานานพอจนต้องพักสักหน่อยละ แต่ด้วยความตั้งใจว่าจะต้องหาร้านกาแฟริมน้ำให้ได้ เจอป้ายบอกทางอีกทีก็เลยเถิดมาจนถึงเจ็ดเสมียน ราชบุรี ขับไปจนเจอตลาดเก่าเจ็ดเสมียน วิ่งต่อไปอีกนิดก็พบกับร้าน ‘ธาราคอฟฟี่’ ร้านกาแฟริมแม่น้ำแม่กลองสมความตั้งใจ
ร้านแห่งนี้ นอกจากจะเป็นร้านอาหาร กาแฟ เบเกอรี่แล้ว ยังมีสปาแบบครบวงจรด้วยนะ ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้ในส่วนของร้านกาแฟแพลอยน้ำ ที่มีระเบียงยื่นออกไปในแม่น้ำ จะนั่งกิน นั่งชิม นั่งแชะก็ได้บรรยากาศชิล ๆ เก๋ ๆ ดีนะ เสียแต่ตรงที่บริเวณที่ยื่นไปในน้ำมีแค่ 3 โซนเท่านั้น ใครที่อยากได้ที่ตรงนี้ต้องอาศัยจังหวะดี ๆ หน่อยแต่ถึงกระนั้นบรรยากาศบนแพก็นั่งสบายใช้ได้ไม่แพ้กัน หรือถ้าไม่อยากร้อน หนีเข้าห้องแอร์เลยก็ได้จร้า
นอกจากกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นที่ลอยมาแต่ไกลแล้ว ร้อน ๆ แบบนี้ต้องดับกระหายด้วย Mixberry ให้ชื่นใจ เค้กโฮมเมดก็มีให้เลือกหลายรายการนะ หรือใครที่ชอบลองเมนูพิเศษประจำวันก็สามารถไปเลือกกันได้บนกระดานหน้าร้านเลยค่ะ ถ้าใครหิวต้องการเมนูจัดหนักทางร้านก็มีอาหารบริการหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ธาราพิซซ่า ขี้เมากุ้ง ปีกไก่ทอด ตำข้าวโพด ยำแซลมอน สลัดโรล ฯลฯ จะทานจานเดียว หรือทานเล่นก็เลือกได้ตามใจชอบเลย ร้อน ๆ แบบนี้อยากหลบร้อนมากินลมชมแม่น้ำ ก็มากันได้เลย ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-22.00 น.
หมดไปอีกวันกับการเที่ยวใกล้ ๆ กับเพื่อนคู่ใจ Ford Everest 2017 2.2L Titanium ชาร์ตแบตกันมาเต็มที่แล้วก็เตรียมลุยงานกันต่อ คราวหน้า ‘เที่ยวตาม (อำเภอ) ใจ’ จะพาไปไหน กด Follow เพจ Benewsonline รอไว้เลย