แอ๊ด คาราบาว ผนึกศิลปินจัดคอนเสิร์ตการกุศล “เพื่อผู้พิทักษ์ป่า”
กระแสน้ำใจจากคนไทยหลั่งไหลมาสู่ผู้พิทักษ์ป่าไม่ขาดสาย หลังจากข่าว “เสือดำถูกฆ่า” และกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ ขณะเดียวกัน ภารกิจของผู้พิทักษ์ป่ายังคงต้องดำเนินต่อไปไม่มีวันจบ แอ๊ด คาราบาว จึงผนึกกำลังเพื่อนพ้องน้องพี่ศิลปินร่วมกันจัดคอนเสิร์ตการกุศล “เพื่อผู้พิทักษ์ป่า” ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง โดยนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรใบละ 300 บาท มอบให้กับกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
งานนี้เหล่าศิลปินรุ่นใหญ่นำทัพโดย โฮป , หงา คาราวาน , หมู พงษ์เทพ, คนด่านเกวียน, หลิว อาจารียา & สกายพาส, แฮมเมอร์,คาราบาว และเสก โลโซ และ โป่ง หินเหล็กไฟ หมุนเวียนกันขึ้นเวทีคอนเสิร์ตขับขานบทเพลงเพื่อชีวิตและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ พร้อมกันนี้ยังมีผู้ใหญ่ใจดีอย่าง พัชร สมะลาภา รอง กก.ผจก.อาวุโส ธนาคารกสิกรไทย มอบเช็คจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับกองทุนผ่าน ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุด ฉก.พญาเสือ โดยมีแอ๊ด คาราบาว ประธานมูลนิธิคาราบาว ตัวแทนวงคาราบาว และเพื่อนๆ ศิลปิน ร่วมกันเป็นสักขีพยาน รวมจำนวนเงินที่มอบให้กองทุน1,359,100 บาท
แอ๊ด คาราบาว โต้โผใหญ่ของการจัดงานคอนเสิร์ตครั้งนี้เปิดเผยว่า “ คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการรวมพลพี่น้องเพื่อนศิลปินเพื่อชีวิตและศิลปินร็อกหลายวงมาช่วยเหลือกันระดมทุนให้เจ้าหน้าที่ หลังจากมีข่าวเสือดำถูกฆ่าในทุ่งใหญ่นเรศวร เราก็รู้สึกสลดใจ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น เพราะตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เสียงปืนเงียบสงบมานาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานก็เอาจริงเอาจัง ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่การทำงาน ปกป้องป่าไม้และสัตว์ป่า เราจึงอยากหาเงินสักก้อนเข้ากองทุน เพื่อมาเป็นสวัสดิการให้พวกเขา เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในการทำงาน เวลามีอุปสรรค ลูกเมียก็ลำบาก เมื่อมีความเดือดร้อนกองทุนตรงนี้ก็จะช่วยได้”
ด้าน ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าหน่วยพญาเสือ เล่าถึงความรู้สึกที่หลายฝ่ายหยิบยื่นน้ำใจและให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ว่า “ทุกวันนี้ประชาชนให้กำลังใจ และมีกระแสอนุรักษ์เพิ่มมากขึ้น ที่หลั่งไหลมาชัดเจนคือ สิ่งของและการบริจาคเงิน ทำให้เห็นว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่สูญเปล่า มันมีพลังอยู่ในใจ มีคนที่คอยให้กำลังใจเราอยู่ ทำให้หัวใจพองโตขึ้น เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าส่วนใหญ่ไม่มีประกันชีวิต เพราะในการปฏิบัติหน้าที่ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง จึงไม่มีบริษัทไหนรับทำประกัน แต่กองทุนนี้อย่างน้อยจะสามารถช่วยเหลือตัวเขา และครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังได้ คนที่ทำงานผู้พิทักษ์ป่าก็จะได้หมดห่วง”
