“เบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์” ตำนานบทเก่า ที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย จัดกิจกรรมเสริมสิริมงคล เสริมบารมีให้กับชีวิต ต้อนรับปีจอ ด้วยการพาเดินทางไหว้พระ “เบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์” หรือ “หลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง” บนเส้นทางสายน้ำศักดิ์สิทธิ์และตำนานเล่าขานเกี่ยวกับความศรัทธาที่คนไทยให้ความเคารพนับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมาช้านาน
สิ่งมีชีวิตทุกสรรพสิ่งล้วนกำเนิดขึ้นมาจากธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยมี “ธาตุน้ำ” เป็นศูนย์กลางแห่งพลัง “เบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์” เป็นความอัศจรรย์ของพลังแห่งน้ำและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ลอยมาตามกระแสน้ำจนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ตามวัดต่าง ๆ เขาเล่าว่า .. ใครได้ร่วมเดินทางสร้างบุญสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 5 องค์ แม้มีโอกาสได้กราบไหว้บูชาเพียงครั้งเดียว ย่อมถือว่าเป็นการสร้างบุญมหามงคล มหาบารมี อันจะนาความสุขความเจริญครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิต
หลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง มีตำนานเล่าว่า กาลครั้งหนึ่งมีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้งสัจจะอธิษฐานว่า “เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้วก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน” ครั้นพระอริยบุคคลทั้งห้าองค์นี้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ มีความปรารถนาจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้คนทางเมืองใต้ จึงพากันแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย
ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกงแล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม” และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้าง ไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำจนผู้ที่พบเห็น ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้ พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์นี้ ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ที่มีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างประเทศหลั่งไหลมาเคารพสักการะมิได้ขาด
หลังจากนัดรวมพลกันเป็นที่เรียบร้อย คาราวาน อิ่มบุญ…อิ่มใจ เบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์ ก็เริ่มต้นขึ้น เราออกเดินทางโดยรถบัสมุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่แรก เพื่อจะเดินทางไปกราบนมัสการ “หลวงพ่อโสธร” ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และอธิฐานหยดเทียนขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อมาทายารักษาโรคต่าง ๆ จากนั้นก็เดินทางไปขอพรบารมีให้สมความปรารถนาในเรื่องต่าง ๆ กับ “หลวงพ่อโต” วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ ผู้ที่เดินทางมาขอพรที่นี่มักจะนิยมบนด้วยใบลานที่สานเป็นปลาตะเพียนเงิน ตะเพียนทอง เพราะเชื่อว่าเป็นปลาคู่บารมีของท่าน
ไหว้พระขอพรอิ่มใจกันแล้ว ก็แวะไปอิ่มท้องกันที่ร้านอาหารท้องถิ่นของที่นี่ พร้อมกับเที่ยวชมตลาดน้ำโบราณบางพลี เป็นตลาดที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมด เดินตรงจากวัดเข้าไปจนสุดทางจะเจอคลองคั่น ข้ามสะพานไม้สูงไปยังอีกฝั่ง จะเจอกับร้านค้าขายของกินของฝากเรียงรายอยู่มากมาย แต่ก่อนจะข้ามไปแวะถ่ายรูปและเช็กอินที่สะพานแห่งนี้สักหน่อย เพราะนอกจากความคลาสสิคแล้วยังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง และบ้านเรือนบริเวณรอบ ๆ ได้แบบ 360 องศา มาถึงที่นี่ทั้งทีอย่าลืมหิ้วปลาสลิดบางบ่อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยล่ะ
ช่วงบ่ายเราออกเดินทางต่อไปยัง วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี กราบมนัสการ “หลวงพ่อทอง” พระคู่บารีแม่น้ำเพชรบุรี อธิษฐานขอโชคลาภ ค้าขาย ธุรกิจมั่งคั่ง ร่ำรวย จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ที่พักเพื่อรับประทานอาหารเย็น พร้อมสนุกสนานเฮฮา กับการแต่งตัวย้อนวัย “Balck to School” ของบรรดาผู้สูงวัยที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันในทริปนี้ ซึ่งเรียกทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะตลอดค่ำคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น ออกเดินทางสู่สมุทรสงคราม กราบมนัสการ “หลวงพ่อบ้านแหลม” หลวงพ่อแห่งสายน้ำแม่กลอง ณ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) จ.สมุทรสงคราม ขอพรบารมีเรื่องความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ การงานแคล้วคลาดจากอันตราย สุขภาพแข็งแรง แล้วก็ไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านกุ้งอบภูเขาไฟ ร้านอาหารชื่อดังของนครปฐม ปิดท้ายโปรแกรมไหว้พระ อิ่มบุญ…อิ่มใจ เบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์ ในครั้งนี้กันที่ “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” พระศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำนครชัยศรี ขอพรบารีด้านแคล้วคลาดจากภัยอันตราย เสริมส่งเจริญรุ่งเรืองและปลอดภัยจากความเจ็บไข้ได้ป่วย พร้อมทั้งชมบ้านดินที่สร้างขึ้นจริงริมฝั่งแม่น้ำ แวะซื้อของฝากก่อนกลับบ้านที่ “ตลาดน้ำดอนหวาย”
ผู้ที่พลาดทริปนี้ไม่ต้องเสียใจ เพราะ ททท. มีกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ตลอดทั้งปี สนใจจะร่วมเดินทางไปกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง สามารถติดต่อสอบถามกันได้ที่ https://www.facebook.com/tatbangkok