“ฮอนด้า” ผนึก “ไอเอ็มจี” เดินหน้าจัด “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” อย่างยิ่งใหญ่
“ฮอนด้า” จับมือ “ไอเอ็มจี” จัดการแข่งขัน “Honda LPGA Thailand 2018” รวมเหล่านักกอล์ฟซูเปอร์สตาร์ 9 อันดับโลก และนักกอล์ฟดาวรุ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้ง โปรโม-โปรเม นักกอล์ฟสาวขวัญใจคนไทยที่จะมาดวลวงสวิงลุ้นแชมป์โปรไทยคนแรกของทัวร์นาเม้นท์นี้ ชิงเงินรางวัล 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 51 ล้านบาท พร้อมถ้วยรางวัลดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากนกอิทรี และรางวัลพิเศษ Honda CR-V ใหม่ มูลค่า 1,699,000 บาท สำหรับผู้ที่ทำโฮลอินวันหลุม 16 ได้เป็นคนแรก โดยฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้รับการตอบรับเข้าแข่งขันจากนักกอล์ฟหญิงระดับโลก และมีแฟนนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ความสนใจและติดตามเป็นจำนวนมากในทุกๆ ปี และนับเป็นปีที่ 12 ที่ฮอนด้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน ซึ่งในปีนี้เรามีนักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันรวม 70 คน แบ่งเป็น 58 นักกอล์ฟหญิงที่อยู่ในอันดับประจำปี 2018 ของแอลพีจีเอ (LPGA Official Priority List 2018) อาทิ ชานชาน เฟิง มือวางอันดับ 1 ของโลก ปาร์ค ซอง ฮยอน โปรสาวชาวเกาหลีมือ 2 ของโลกและแชมป์จากรายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่นปีล่าสุด ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้เป็นครั้งแรก ริว โซยอน โปรสาวชาวเกาหลีมือ 3 ของโลก และแชมป์รายการเมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน รวมทั้งแชมป์เก่าของการแข่งขันในปีที่ผ่านๆ มาก็ตอบรับที่จะมาร่วมประชันฝีมือ อาทิ เอมี หยาง (แชมป์ปี 2017 และ 2015) ที่จะกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้ง, เล็กซี ธอมป์สัน (แชมป์ปี 2016 และเจ้าของตำแหน่งนักกอล์ฟคะแนนสะสมมากที่สุดแห่งปี 2017 จาก เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลป), แอนนา นอร์ดควิสต์ (แชมป์ปี 2014 และแชมป์รายการเมเจอร์ เอเวียง แชมเปี้ยนชิพ 2017) ดาเนียล คัง แชมป์รายการเคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมด้วย บริททานี ลินซิคัม แชมป์ล่าสุด จากรายการเพียว ซิลค์-บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิค 2018 ที่แข่งขันจบไปเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา และ แชมป์รายการ ไอเอสพีเอส ฮานดา วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 อีกทั้งเหล่านักกอล์ฟรับเชิญทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอีก 10 คน”
“ทางด้านโปรกอล์ฟสาวไทยอย่าง โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ผู้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกเมื่อปีที่ผ่านมาและล่าสุดคว้าแชมป์รายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ปิดท้ายฤดูกาล 2017 ไปได้สำเร็จ โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล และโปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ ก็พร้อมร่วมชิงชัยในบ้านอย่างสมศักดิ์ศรี รับรองได้ว่า ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 ในปีนี้ จะเป็นทัวร์นาเมนต์ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีอย่างแน่นอน” นายพิทักษ์ กล่าวเสริม
ปัจจุบัน การแข่งขันกอล์ฟสตรีรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ถือเป็นหนึ่งในศึกดวลวงสวิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียเป็นโปรแกรมที่ 3 ของตารางแข่งแอลพีจีเอ ซึ่งการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” เดินทางมาถึงปีที่ 12 นอกเหนือจากเงินรางวัลสูงถึง 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 51 ล้านบาทแล้ว ผู้ชนะจะได้รับถ้วยรางวัลดีไซน์ใหม่ฉลองครบรอบปีที่ 12 ซึ่งสร้างสรรค์โดยศิลปินไทยเลือดใหม่ไฟแรง ศรุตา เกียรติภาคภูมิ เจ้าของรางวัลนักออกแบบหน้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากนกอินทรี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่น และความสง่างามของนักกีฬากอล์ฟสตรีบนสนาม อีกทั้งรางวัลพิเศษ รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร รุ่น DT-EL 4WD มูลค่า 1,699,000 บาท สำหรับผู้ที่สามารถทำโฮลอินวันที่หลุม16 ได้เป็นคนแรก
นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน ตัวแทนโปรกอล์ฟจากทั่วโลกจะได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งกิจกรรมเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาและมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในจังหวัดชลบุรี Honda LPGA Charity Night ที่นำของรักของหวงนักกอล์ฟมาร่วมประมูลในงาน เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้แก่ศิริราชมูลนิธิ ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ จัดขึ้นเพื่อตอบแทนสังคมมาโดยตลอด พร้อมด้วยกิจกรรมสนับสนุนเยาวชนและกีฬากอล์ฟ อย่าง กอล์ฟคลินิก ที่ตัวแทนโปรกอล์ฟจะมาร่วมฝึกสอนและถ่ายทอดเทคนิคการเล่นกอล์ฟให้แก่เยาวชนไทย ลูกค้าฮอนด้า และผู้ที่สนใจ กันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย”
มิสวินนี่ เฮง รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอเอ็มจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ไอเอ็มจี ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด อีกครั้งในการพัฒนาการจัดงานให้น่าประทับใจยิ่งกว่าที่ผ่านมา โดยเรามีความพร้อมทั้งในด้านของสถานที่แข่งขัน คือ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส สนามกอล์ฟที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักกอล์ฟมากที่สุดสนามหนึ่ง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และกิจกรรมมากมายสำหรับแฟนกอล์ฟและครอบครัวที่เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนฝึกสอนกอล์ฟจากฮอนด้า กิจกรรม “ชิพ ฟอร์ ชาริตี้” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคมของงานที่จะเปิดให้ผู้ข้าชมได้มีส่วนร่วมตอบแทนสิ่งดีๆ สู่สังคม การจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายมากขึ้น การจัดสถานที่ให้แฟนกอล์ฟได้ชมการฝึกซ้อมของผู้เข้าแข่งขันอย่างใกล้ชิด และสถานที่ที่ผู้ชมสามารถนั่งดูการแข่งได้อย่างสะดวกสบายท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม และการแสดงดนตรีสดในบรรยากาศหลังจบรายการแข่งขันตลอดทั้ง 4 วัน”
นายธิติพร จุติมานนท์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9MCOT HD กล่าวว่า “ในฐานะพันธมิตรของการจัดงาน กล่าวว่า “ทาง อสมท มีความพร้อมถ่ายทอดความสนุกและความยิ่งใหญ่ตลอดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 ผ่านทางช่อง 9MCOT HD หมายเลข 30 ด้วยความคมชัดระดับ FULL HD ตั้งแต่วันที่ 22-25 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันแล้ว ผู้ชมยังจะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของการแข่งขัน ด้วยสกู๊ป และเนื้อหาพิเศษที่ทาง อสมท นำมาให้ผู้ชมได้อัพเดตก่อนใคร พร้อมทั้งได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของการแข่งขัน นับเป็นการส่งมอบโปรแกรมกีฬากอล์ฟระดับโลกให้ผู้ชมชาวไทยได้รับชมกีฬาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและจุใจ สอดคล้องกับนโยบายในปีนี้ของอสมท ที่พร้อมเดินหน้าในเนื้อหาด้านกีฬา และด้วยศักยภาพของ อสมท ที่มีสื่อทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และช่องทางออนไลน์ จะทำให้การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้อย่างทั่วถึงและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นอย่างแน่นอน”
สำหรับแฟนกอล์ฟและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขัน สามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าในราคาพิเศษ ได้จนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ www.hondalpgathailand.com บัตรเข้าชมการแข่งขันวันที่ 22 หรือ 23 กุมภาพันธ์ ราคา 300 บาท/วัน (จากราคาปกติ 350 บาท/วัน), วันที่ 24 หรือ 25 กุมภาพันธ์ ราคา 400 บาท/วัน (จากราคาปกติ 550 บาท/วัน),แพ็คเกจเข้าชมช่วงสุดสัปดาห์ 2 วัน ราคา 500 บาท (จากราคาปกติ 950 บาท) และแพ็คเกจ 4 วัน ราคา 800 บาท (จากราคาปกติ 1,200 บาท) ซึ่งผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี