แอล เอช ฟันด์ ประเดิมปี 61 คลอดกองทุนใหม่ ‘แอล เอช โรโบติกส์-E’ ชูจุดเด่นเป็น Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุน iShares Automation & Robotics UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน Acc Share Class เป็นกองทุนหลัก ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจพัฒนาระบบเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และ/หรือระบบอัตโนมัติ ภายใต้บริหารจัดการกองทุนโดย BlackRock Advisors (UK) Limited ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 17 – 29 ม.ค. นี้ หลังมองภาพรวมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์มาแรงและมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า ปี 2561 แอล เอช ฟันด์ มีแผนเปิดตัวกองทุนรวมเพื่อเพิ่มทางเลือกกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยในเดือนมกราคมจะเปิดตัวกองทุนเปิด ‘แอล เอช โรโบติกส์-E’ หรือ LH ROBOTICS-E FUND (LHROBOT-E) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารทุนประเภท Feeder Fund ที่เข้าลงทุนในต่างประเทศ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยี หุ่นยนต์ ซึ่งประเมินว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยมีวงเงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท กำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกวันที่ 17 – 29 มกราคมนี้ กำหนดจองซื้อขั้นต่ำในครั้งแรกและครั้งถัดไป 5,000 บาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง
ทั้งนี้ กองทุน แอล เอช โรโบติกส์-E เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศคือ กองทุน iShares Automation & Robotics UCITS ETF เป็นกองทุนหลัก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ซึ่งกองทุนดังกล่าวจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลายประเทศ อาทิ ตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรีย, ตลาดหลักทรัพย์ประเทศลักเซมเบิร์ก ตลาดหลักทรัพย์ประเทศอังกฤษ, ตลาดหลักทรัพย์ประเทศไอร์แลนด์ ฯลฯ โดยกองทุนหลักที่เข้าลงทุนเป็นชนิดหน่วยลงทุน Acc Share Class ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไอร์แลนด์ และจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ London Stock Exchange ประเทศอังกฤษ และอยู่ภายใต้บริหารการลงทุนโดยของ BlackRock Advisors (UK) Limited ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก
ขณะที่กองทุน iShares Automation & Robotics UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน Acc Share Class ที่เข้าลงทุนนั้น มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และ/หรือระบบอัตโนมัติ โดยจะพิจารณาเลือกลงทุนและกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) ของกองทุน รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดย ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560กองทุนดังกล่าวเข้าลงทุนหลักทรัพย์หมวดต่างๆ เช่น หมวดเทคโนโลยีการสื่อสาร (Information Technology) หมวดอุตสาหกรรมต่างๆ (Industrials)
เปิดตัวกองทุนใหม่ เนื่องจากประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และที่เกี่ยวเนื่องมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคต โดยวิเคราะห์ว่าภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีแนวโน้มนำหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ภายในโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน ตลอดจนนำมาใช้แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือโดยเฉพาะในประเทศที่ประสบปัญหามีแรงงานฝีมือไม่เพียงพอต่อความต้องการหรือกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงเชื่อว่าเทรนด์ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์จะขยายตัวได้อย่างมากตามการปรับเปลี่ยนโมเดลในภาคการผลิตของอุตสาหกรรม
“เราคาดหวังว่ากองทุนนี้เป็นทางเลือกที่ดีเพื่อกระจายการลงทุนในต่างประเทศ โดยเราได้วิเคราะห์แนวโน้มของธุรกิจด้านหุ่นยนต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องแล้วว่ามีโอกาสเติบโตสูง จากความต้องการใช้งานหุ่นยนต์ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมไอที, การแพทย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี”
Comments
comments