web analytics

ติดต่อเรา

เดินทางปลอดภัย สวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน

รู้หรือไม่ว่า สาเหตุของการที่เด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ  99% เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย จากรายงานของสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ยังเผยว่ามีเด็กไทยเพียง 7% เท่านั้นที่ใส่หมวกนิรภัยระหว่างการเดินทาง จากอัตราการใช้หมวกนิรภัยจำนวนน้อยนี่เอง สะท้อนให้เห็นถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าภัยอันตรายรอบตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน ด้วยเหตุนี้ การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยรวมถึงการเรียนรู้วิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการป้องกันและสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ

ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนสู่เยาวชนไทย แกร็บ ประเทศไทยจึงร่วมมือกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย องค์กรไม่แสวงผลกำไร ในโครงการ เดินทางปลอดภัย สวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน มอบหมวกนิรภัยจำนวน 800 ใบ ให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง โรงเรียนวัดช่องนนทรี พร้อมสนับสนุนการจัดอบรมด้านความปลอดภัยทางท้องถนน และการใช้หมวกนิรภัยให้ถูกวิธีให้กับครู นักเรียนและผู้ปกครอง  โดยเป็นหลักสูตรที่เน้นให้เด็กๆ เป็นศูนย์กลาง ส่วนครูและผู้ปกครองจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลและให้ความรู้ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เดินทางไปกลับโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย และหวังลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กจากอุบัติเหตุทางถนน

นายนพดล ขาวนาค และ เด็กหญิงพัชรพร ขาวนาค ครอบครัวต้นแบบ

หนึ่งในครอบครัวต้นแบบที่ต้องรับส่งลูก 2 คน ไปกลับโรงเรียนด้วยจักรยานยนต์ทุกวัน บอกเล่าประสบการณ์ในการเดินทางว่า “อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวัน ผมขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นอาชีพ ดังนั้นชีวิตส่วนใหญ่จึงต้องอยู่บนท้องถนนตลอด ผมจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ” นายนพดล ขาวนาค ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง โรงเรียนวัดช่องนนทรี กล่าว “ผมสอนลูกทุกคนว่าก่อนเดินทางต้องใส่หมวกนิรภัย เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การใส่หมวกนิรภัยจะช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของเขาได้ โครงการนี้ทำให้ครอบครัวผมได้มีหมวกนิรภัยที่มีคุณภาพใช้ เพราะหมวกนิรภัยที่มีมาตรฐานสำหรับเด็กโดยเฉพาะค่อนข้างหายากและยังได้เรียนรู้การใช้งานที่ถูกต้องอีกด้วย ผมหวังว่าเราจะสามารถเป็นครอบครัวต้นแบบในการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ถนนอย่างปลอดภัย ซึ่งเริ่มต้นง่าย ๆ ได้ที่ครอบครัวของเรา และผมเชื่อว่าถ้าเราสามารถสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้ ก็จะช่วยพัฒนาชีวิตของคนในสังคมได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน”

เด็กหญิงพัชรพร ขาวนาค นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดช่องนนทรี ลูกสาวของนายนพดล กล่าวถึงความประทับใจที่ได้รับจากโครงการว่า “หนูกับน้องชาย เรียนที่โรงเรียนนี้ด้วยกันสองคน และคุณพ่อมาส่งเราที่โรงเรียนทุกวันด้วยมอเตอร์ไซค์ แต่ว่าจะมาได้เที่ยวละหนึ่งคนและต้องแบ่งหมวกกันใช้กับน้อง เพราะมีหมวกไม่พอ และก่อนหน้านี้ก็ใส่หมวกตามปกติโดยที่ไม่รู้ว่าใส่ถูกไหม โครงการนี้ทำให้หนูได้มีหมวกดีๆ เป็นของตัวเอง และยังได้รู้ว่าการใส่หมวกนิรภัยนั้นต้องใส่ให้พอดีกับขนาดของศีรษะและใส่อย่างไรให้ถูกวิธี สิ่งที่ได้จากโครงการนี้ นับเป็นความรู้ที่สอนให้หนูรู้ว่าการสวมหมวกนิรภัยนั้นสำคัญกับชีวิตของเรามาก และจะช่วยให้เราเดินทางไปกลับจากบ้านถึงโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยค่ะ”

ข้อมูลจากการสำรวจเบื้องต้นของมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย พบว่าโรงเรียนวัดช่องนนทรีตั้งอยู่ในแหล่งที่มีการจราจรหนาแน่นแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อยู่บริเวณชุมชนที่ค่อนข้างแออัด เป็นทั้งซอยและทางโค้งที่เสี่ยงต่ออันตราย นักเรียนกว่า 95% ใช้รถจักรยานยนต์และจักรยานในการเดินทาง ไป-กลับจากโรงเรียน แต่มีเด็กเพียง 2% เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน

“เพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้ถนน การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก พ่อแม่และผู้ปกครอง ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้หมวกนิรภัย พร้อมอบรมการใช้งานที่ถูกวิธี จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อช่วยลดจำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ถือเป็นอนาคตของชาติ  ทำให้โรงเรียนวัดช่องนนทรีเป็นต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน และจุดประกายให้โรงเรียนต่างๆ ริเริ่มโครงการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยเช่นกัน” นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด และนางรัตนาวดี เหมนิธิ วินเธอร์ ประธานกรรมการ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย กล่าว

โครงการ เดินทางปลอดภัย สวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียนนี้ ได้เริ่มทำการอบรมให้กับคุณครู ผู้ปกครองและนักเรียนต้นแบบจำนวนกว่า 800 คน ของโรงเรียนวัดช่องนนทรีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 โดยคัดสรรเหล่าวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากแกร็บ ประเทศไทยและมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย มาแบ่งปันความรู้ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ การจำลองแบบจราจรเสมือนจริงและวิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้อง เพื่อให้ครู นักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนวัดช่องนนทรีได้เรียนรู้พฤติกรรมการใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับชุมชน ทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่ทุกคนในสังคมไทยและช่วยบ่มเพาะวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความมุ่งมั่นของสหประชาชาติในการมุ่งสู่ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *