สุดอลังการณ์กับ ปอร์เช่ ในงาน Los Angeles Auto Show 2017
การปรากฎโฉมของยนตกรรมสปอร์ตพร้อมกันถึง 4 รุ่น และ เปิดตัว คาเยนน์ รุ่นใหม่ (The new Porsche Cayenne) ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา
สตุ๊ทการ์ท. ตามแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 4 รุ่น ปอร์เช่กลายเป็นดาวเด่นที่ฉายแสงเจิดจรัสท่ามกลางบรรยากาศในงาน มหกรรมการแสดงรถยนต์ระดับโลก Los Angeles Auto Show: การเผยโฉมของ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panemera Turbo S E Hybrid Sport Turismo), 718 บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (718 Boxster GTS) และ 718 เคย์แมน จีทีเอส (718 Cayman GTS) ในฐานะเรือธงสูงสุดของแต่ละรุ่น ตามด้วย 911 คาร์เรร่า ที รับบทบาทรถสปอร์คน้ำหนักเบาสายพันธุ์แท้ และ ปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการมาถึงของ คาเยนน์ (Cayenne) เจเนอเรชั่นล่าสุด ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ที่งานมหกรรมยานยนต์ Los Angeles Auto Show ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้
บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมันรายนี้ ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นล่าสุด ภายใน Petree Hall ณ Convention Center ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 11:00 น. (ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก หรือ 20:00 น. ตามเวลามาตรฐานยุโรปกลาง)
ปอร์เช่ยังคงมุ่งมั่นก้าวต่อไปยนเส้นทางสู่ความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดปี 2017 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่รวมทั้งสิ้น 45,952 คัน ตัวเลขยอดจำหน่าย 3 ไตรมาสแรกของปี ขยับเพิ่มขึ้นถึง 2.7 การเปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) +16.3 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้ง พานาเมร่า ใหม่ (The new Panamera) +52.5 เปอร์เซ็นต์ คือรุ่นรถที่มีอัตราการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานข้างต้น สะท้อนถึงระดับความพึงพอใจและความนิยมจากบรรดาลูกค้าของปอร์เช่ในสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี และล่าสุด จากผลงานวิจัยในหัวข้อ “Automotive Performance, Execution and Layout (APEAL) Study” ซึ่งจัดทำขึ้นโดย J.D. Power สถาบันวิจัยการตลาดที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา ปอร์เช่สามารถคว้าอันดับสูงสุดของภาพรวมทั้งหมดในการสำรวจติดต่อกันเป็นครั้งที่ 13 หมายความว่า ปอร์เช่ยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์ยนตกรรมที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจสูงสุดสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นปอร์เช่ 911 (Porsche 911), คาเยนน์ (Cayenne), และมาคันน์ (Macan) ทุกรุ่นล้วนตบเท้าเข้าครอบครองตำแหน่งสูงสุดในประเภทของรถยนต์ระดับเดียวกัน และฐานข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนที่ Porsche press database (https://presse.porsche.de)
การอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลีย 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า เฉลี่ย 17.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 69 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Porsche 718 Boxster GTS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.1-12.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.0 – 8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 205-186 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีทีเอส (Porsche 718 Cayman GTS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.1 – 12.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.0 – 8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 205- 186 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า ที (Porsche 911 Carrera T): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.5 – 11.7 เมตรกิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.5 – 8.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 215 – 193 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.4 – 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 11.9 – 9.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 272 – 205 กรัมต่อกิโลเมตร
*ค่าที่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของยางรถยนต์ที่ติดตั้ง