“พาณิชย์”แนะนักลงทุนไทย ศึกษาลู่ทางทำการค้าและลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจูไห่ เพื่อเป็นฐานส่งออกสินค้าเจาะตลาดฮ่องกง มาเก๊า และจีน หลังสะพานเชื่อม 3 เมืองกำลังจะเปิดให้บริการ คาดจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้า และทำให้การกระจายสินค้าทำได้ง่ายขึ้น
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ศึกษาโอกาสในการเข้าไปทำการค้าและลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจูไห่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง โดยพบว่ามีโอกาสในการเข้าไปทำการค้าและลงทุนสูง และอยากจะแนะนำให้นักลงทุนไทยศึกษาโอกาสและลู่ทางในการเข้าไป เพราะขณะนี้นักลงทุนต่างชาติจากประเทศต่างๆ ได้เริ่มมองและให้ความสำคัญกับเมืองนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมองเห็นโอกาส ซึ่งไทยก็ควรที่จะศึกษาและ
เข้าไป โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุนของไทยที่สนใจ
สาเหตุที่จูไห่เป็นเมืองที่มีอนาคตในด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากขณะนี้จะมีการเปิดสะพานเชื่อม 3 เมืองสำคัญ คือ ฮ่องกง มาเก๊า และจูไห่ ทำให้ระบบการเดินทางและการขนส่งสินค้าทำได้ดีขึ้น
เพราะจากเดิมจะเป็นการขนส่งผ่านท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ ไม่มีระบบขนส่งทางรถยนต์ แต่เมื่อมีการเชื่อมสะพาน จะทำให้การขนส่งทางรถยนต์ขยายตัวขึ้น และกระจายสินค้าไปยัง 3 เมืองได้ดีขึ้น รวมถึงกระจายเข้าสู่ตลาดจีน
“อนาคต เมืองจูไห่ จะเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเทียบเท่าได้กับเมืองกวางโจวและเมืองเซินเจิ้น หากไทยเข้าไปทำการค้าและการลงทุนก่อน ก็จะตักตวงผลประโยชน์ได้ก่อน โดยผู้ที่สนใจเข้าไป สามารถเข้ามาปรึกษาได้กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่พร้อมจะสนับสนุนผู้ประกอบการในการออกไปค้าขายและออกไปลงทุนในต่างประเทศ”นางจันทิรากล่าว
สำหรับสะพานเชื่อม 3 เมือง ฮ่องกง มาเก๊า จูไห่ เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนพ.ย.2560 โดยสะพาน
มีความยาวทั้งหมด 55 กิโลเมตรและถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่วง โดยช่วงที่ 1 เป็นสะพานจากจูไห่ไปถึงสามแยกไปมาเก๊าหรือฮ่องกง ช่วงที่ 2 เป็นสะพานจากมาเก๊าไปถึงสามแยกไปจูไห่หรือฮ่องกง ช่วงที่ 3 เป็นสะพานที่แยกช่องทางการเดินทางไปฮ่องกง มาเก๊า จูไห่ และช่วงที่ 4 เป็นสะพานจากฮ่องกงไปถึงสามแยกไปจูไห่หรือมาเก๊า ซึ่งจากการทดลองเดินทางสรุปได้ว่าจากจูไห่เดินทางไปถึงฮ่องกงใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น
Comments
comments