ทาทา อัลทรา 1014 รถบรรทุก 6 ล้อ หนึ่งเดียวที่มีระบบเบรก ABS
เรื่อง…EDITOR
เป็นโอกาสอันดีที่ผู้หญิงไซต์มินิจะมีโอกาสจับพวงมาลัยรถบรรทุกอีกสักครั้ง ใครว่าขนาดความสูงจะเป็นอุปสรรค ก็คงจะไม่จริงไม่ซะหมด กับรถบรรทุกขนาด 6 ล้อ เพื่อการพาณิชย์ ที่ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย นำมาให้ผู้สื่อข่าวได้มาทดสอบกัน
หลังจากรับประทานอาหารลงทะเบียนเพื่อจะออกรอบกันช่วงบ่าย ก่อนการทดสอบก็มีการบรีฟและพูดถึงสมรรถนะของทาทา อัลทรา กันแบบคร่าวๆ โดยได้รับเกียรติจากคุณซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย มากล่าวเปิดงานและทักทาย ก่อนจะบอกเล่าที่มาที่ไปและสมรรถนะของรถความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและรองรับความต้องการของการขนส่งทุกประเภท โดยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ (Tata Daewoo และ Tata Prima) รถบรรทุกขนาดกลาง (Tata Ultra) รถบรรทุกขนาดเล็ก (Tata Super Ace Mint) และรถกระบะ (Tata Xenon) มาจัดแสดงครบทุกประเภทโดยมีคุณสมิทธิ์ แสงไฟ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมแปลและอธิบายถึงตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม
สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อที่จะทำการทดสอบในวันนี้กับ ทาทา อัลทรา 1014 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล แบบ 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ปริมาตรกระบอกสูบ 2,956 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 2,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 1,400-2,000 รอบ/นาที โดยให้กำลังเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างดีเยี่ยม ชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด G550 ทำงานด้วยสายเคเบิ้ล ที่ดูแลรักษาง่าย มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และให้จังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล
การทดสอบแบ่งเป็น 2 หมวดคือ ให้รถบรรทุกหนักโดยการติดตั้งตู้แช่ที่มีการใส่น้ำไว้ถึง 11 ตัน และแบบท้ายเปล่าเพื่อให้วัดกันถึงพละกำลัง การขับเคลี่อน และการเบรคโดยใช้ระบบ ABS
รอบแรกกับการบรรทุกหนัก นั่งประจำที่พร้อมปรับเบาะ ขาสั้นตัวเตี้ยก็หายห่วง และพวงมาลัยที่สามารถปรับสูงต่ำได้ตามความชอบและความถนัด เบาะนั่งเป็นแบบ Suspended Driver Seat ที่มีระบบกันสะเทือน ปรับระดับได้ เพื่อความสบาย และลดอาการอ่อนล้าของผู้ขับขี่ ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ แบบ Walkthrough มีความกว้างขวางสะดวกสบาย แผงหน้าปัดมีการแสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งอัตราสิ้นเปลือง และสัญญาณไฟแสดงสภาวะการใช้งานต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษารถ และยังมีช่องเก็บสัมภาระต่างๆ หลายตำแหน่ง
ช่วงจังหวะการเข้าเกียร์อาจต้องทำการคุ้นชินกันสักเล็กน้อยตามสไตล์รถบรรทุก เกียร์หนึ่งเข้าสอง รอบไวไปนิด แต่ถ้าไม่ติดอะไรก็ไปได้สบาย การที่ ทาทา ตั้งรอบเครื่องให้ขึ้นไม่ถึง 3,000 เนื่องจากเพื่อเป็นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงไปในตัว (วิจัยมาดีนะค่ะ) พวงมาลัยเบาควบคุมง่าย แม้จะบรรทุกหนัก ช่วงเข้าโค้งที่แคบควบคุมได้สบาย จังหวะหยุดเบรคอาจต้องเพิ่มพลังเท้าแตะย้ำกันสักหน่อย แต่โดยรวมยังอยู่ในการควบคุมที่ดี
รอบสองเปลี่ยนแบบขับเบาๆ ติดตั้งตัวคอกเปล่า ทดสอบสมรรถนะ และความเร็ว การเข้าเกียร์รอบไวไม่ต่าง แต่ขับแล้วความรู้สึกหมือนขับรถกระบะที่เพิ่มขนาดเป็น 6 ล้อ เข้าโค้งและสลาลมได้สบาย ความเร็วเอาอยู่ ไม่เหวี่ยง ไม่สะบัด ช่วงจังหวะแตะเบรคอาจต้องอาศัยพละกำลังในการกดสักนิดนึง เพื่อให้รถจอดสนิท แต่โดยรวม ที่มีการออกแบบ หัวเก๋งให้เป็นตามหลักอากาศพลศาสตร์ลดแรงต้านอากาศ และเสียงรบกวน พร้อมให้เสถียรภาพในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งหัวเก๋งยังสามารถยกได้แบบ 45 องศา ด้วยระบบไฮดรอลิค เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการดูแลรักษา
โดยรวม ทาทา อัลทรา ถือว่าเป็นรถบรรทุกที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย และบรรทุกหนักก็ห่ายห่วง ที่สำคัญยังมีพื้นที่สำหรับการบรรทุกเพิ่มขึ้น ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ และการออกแบบห้องโดยสารที่ผ่านมาตรฐาน ECE-R29 ของยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของจากการกระแทกด้านหน้าและการใช้น้ำหนักหล่นทับบนหลังคาห้องโดยสาร กระจกบังลมหน้าเป็นแบบพาโนรามิคให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนตลอดทุกเส้นทาง ไฟหน้าเป็นแบบปรับระดับสูงต่ำได้ให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนในยามค่ำคืนและช่วยหลีกเลี่ยงแสงไฟไปรบกวนรถคันข้างหน้า
แชสซีส์ของ ทาทา อัลทรา ยังได้รับการออกแบบมาเป็นแบบตรง คุณภาพสูง มีความแข็งแกร่งในการใช้งาน และเหมาะสมสำหรับการติดตั้งตู้บรรทุก หรือการใช้งานประเภทต่างๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีขนาดของฐานล้อ (Wheelbase) ที่หลากหลาย ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแหนบแผ่นโค้ง และด้านหลังเป็นแบบแหนบโค้งกึ่งวงรี พร้อมแหนบแผ่นโค้งเสริม พร้อมช็อคอัพเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และประสิทธิภาพในการบรรทุก
นอกจากนี้ ทาทา อัลทรา ยังมีโครงสร้างแชสซีส์ที่ทำจากเหล็กคุณภาพสูง แข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพในการบรรทุก ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้กับทุกธุรกิจขนส่ง และด้วยเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องยนต์ ที่ให้แรงบิดสูงเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ยังมีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ ตัวรถดูแลรักษาง่าย ช่วยลดค่าใช้จ่าย และมีศูนย์บริการสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ที่ให้บริการอย่างครอบคลุม รวมทั้งมีรถบริการให้ความช่วยเหลือนอกสถานที่ ทำให้ทุกงานขนส่งไม่สะดุด สามารถสร้างงานสร้างผลกำไรได้อย่างสูงสุด โดยราคาปกติอยู่ที่ 965,000 บาท แต่ในช่วงนี้มีราคาพิเศษอยู่ที่เพียง 899,900 บาท เท่านั้น
