บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าและผู้นำนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุดตอกย้ำแนวคิด UrbanTech ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยของคนเมืองด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ล่าสุด ประกาศความยิ่งใหญ่ในวงการอสังหาฯไทยอีกครั้ง กับการเป็นรายแรก!! ที่ร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากล แกร็บ (Grab) ผู้นำแพลตฟอร์มด้านการขนส่งชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พันธมิตรด้านการเดินทางที่จะมอบสิทธิพิเศษเหนือใครแก่ลูกบ้านของอนันดาฯ เตรียมนำร่องให้บริการลูกบ้านใน 20 โครงการ มั่นใจช่วยเพิ่มความสะดวก สบาย ปลอดภัยในทุกๆ การเดินทางเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดาฯ ตระหนักและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเป็นอย่างดี จึงถือว่าเป็นความท้าทายที่จะมุ่งมั่นในการพัฒนา Urban Living Solutions ซึ่งเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และสิ่งที่ทำให้การเดินทางนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงหรือเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในเมือง ทั้งเพื่อตอกย้ำแนวคิด UrbanTech ยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในวันนี้และอนาคต ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยล่าสุด ประกาศความยิ่งใหญ่ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากล ได้แก่ แกร็บ (Grab) ถือเป็นก้าวใหญ่ก้าวหนึ่ง ที่อนันดาฯ สร้างสรรค์มาเพื่อมอบการบริการแก่ลูกค้าให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยการมอบสิทธิพิเศษเหนือใครให้แก่ลูกบ้านของอนันดาฯ
ความร่วมมือระหว่าง อนันดาฯ และ แกร็บ (Grab) ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ได้นำแพลตฟอร์มด้านการเดินทางมาให้บริการกับลูกบ้าน เพื่อมอบสิทธิพิเศษเหนือใคร เพิ่มความสะดวก สบาย ปลอดภัยในการเดินทาง โดยการใช้บริการของ แกร็บ (Grab) ซึ่งลูกบ้านจะได้รับส่วนลดพิเศษโดยเริ่มต้นที่ 50 บาท สำหรับลูกค้าเดิม และ สำหรับลูกค้าที่เริ่มใช้งานเป็นครั้งแรกเริ่มต้นที่ 100 บาท โดยส่วนลดนี้สามารถใช้ได้กับลูกค้าที่จองบริการของ แกร็บ (Grab) รับ-ส่ง ใน 20 โครงการของอนันดาฯ นอกจากบริการด้านการเดินทางแล้วยังมีแผนเปิดตัวบริการอื่นๆ อาทิ Grab Food เป็นบริการจัดส่งอาหาร ช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้ออาหารได้อย่างง่ายดายจากร้านอาหารที่ชื่นชอบใกล้บ้าน บริการต่างๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญต่อการทำงานร่วมกันมากกว่าการมีส่วนร่วมทางการตลาด โดยได้แบ่งปันข้อมูลเพื่อร่วมกันพัฒนาแนวทางแก้ไขที่ดีขึ้นในอนาคตสำหรับลูกค้าทั้งของอนันดาฯ และ แกร็บ
ซึ่งจากสถิติที่น่าสนใจของ แกร็บ (Grab) ในภูมิภาคคือมีอัตราการเติบโตของผู้ใช้แกร็บ (Grab) อยู่ที่ 360% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2013 โดยเฉลี่ยแล้วผู้โดยสารจะประหยัดเวลาในการเดินทางไปกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับบริการขนส่งสาธารณะทั่วไป และในส่วนของผู้ขับขี่ของ แกร็บ (Grab) ก็มีการเติบโตกว่า 340% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2013 เช่นกัน นอกจากนี้ อัตราอุบัติเหตุยังต่ำกว่าอัตราอุบัติเหตุเฉลี่ยของประเทศถึง 5 เท่า ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้บริการของ แกร็บ (Grab) จะปลอดภัยในทุกการเดินทางอย่างแน่นอน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของแกร็บนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคือการ “ก้าวไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ซึ่งบริการของเรา คือ การประหยัดเวลา ความรวดเร็วปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้โดยสาร โดยเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนร่วมในการช่วยมอบความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านของอนันดาฯ ซึ่ง อนันดาฯ ถือว่าเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าและผู้นำนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด และเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนกันของทั้งสองฝ่ายจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นวัตถุประสงค์หลักของการร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะมอบสิทธิพิเศษทางการเดินทางให้กับลูกบ้านของอนันดาฯ แล้ว ยังให้การบริการในทุกประเภทของ แกร็บ (Grab) ด้วยเช่นกัน อาทิ แกร็บคาร์, แกร็บคาร์พลัส, แกร็บไบค์ (เดลิเวอร์รี่), แกร็บไบค์ (วิน), แกร็บเอ็กซ์เพรส, แกร็บ ฟอร์ บิสสิเนส, จัสท์แกร็บ และ แกร็บเพย์ รวมถึงแกร็บรีวอร์ดส เป็นต้น
“อนันดาฯ ในฐานะผู้นำวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเลือกสรร Innovation และ Technology ใหม่ๆ เข้ามาผสานในทุกองค์ประกอบของการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่มมูลค่ามากยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล และยกระดับการใช้ชีวิตของคนเมืองให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป” นายชานนท์ กล่าว
Comments
comments