ปอร์เช่ ประเทศไทย ทุบสถิติยอดจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ด้วยตัวเลขยอดจองถึง 190 คัน
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ
แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยตัวเลขยอดจองที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยืนยันจากลูกค้าปอร์เช่ด้วยตัวเลขยอดจองถึง 190 คัน ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 (The 34th
International Motor Expo 2017) พร้อมทั้งเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากการปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทยของ คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซคคูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive) และ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo) ตลอดระยะเวลา 13 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน ถึง วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม 2560 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S)
เริ่มต้นด้วยยนตกรรม SUV สายพันธุ์แกร่งเจเนอเรชั่นที่ 3 คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่อย่างไร้ที่ติผ่านการผสมผสานสุดลงตัวระหว่างสมรรถนะการขับขี่สุดร้อนแรงสไตล์ปอร์เช่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับความสะดวกสบายเหนือระดับเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบเปี่ยมพลังระบบ เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ และนวัตกรรมแนวคิดระบบควบคุม พร้อมหน้า จอแสดงผลรับทำหน้าที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนได้อย่างไร้ข้อจำกัด กำหนดบรรทัดฐาน ใหม่ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการบังคับควบคุมและอรรถประโยชน์ เครื่องยนต์ 6 สูบ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 2.9 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 440 แรงม้า พุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดถึง 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เติมเต็มความสามารถพิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์พิเศษอย่างชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ สปอร์ต โครโน (Sport Chrono Package) และให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 วินาทีเท่านั้น สำหรับราคา คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S) สนนราคา 11.4 ล้านบาท แต่สำหรับรุ่น คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) สนนราคาที่ 7.5 ล้านบาท, คาเยนน์ (Cayenne) สนนราคาที่ 9.8 ล้านบาท และ คาเยนน์ เทอร์โบ (Cayenne Turbo) 16.9 ล้านบาท
พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซคคูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive)
ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ที่รักการขับขี่รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมฐานล้อที่กว้างขึ้นจากรุ่นปกติถึง 150 มิลลิเมตร อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่วางเท้า เปี่ยมด้วยสมรรถนะสูงสไตล์แกรนด์ทัวริ่ง มาพร้อมกับพละกำลัง 462 แรงม้า ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดพิเศษ เพิ่มเติมฟังก์ชันการทำงานมาตรฐาน ที่เหนือกว่ารุ่นปกติ อาทิ หลังคาพานอรามิค เบาะนั่งพร้อมระบบอุ่นแบบ comfort seats ระบบช่วงล่างพร้อมถุงลม adaptive air suspension พร้อมระบบควบคุมช่วงล่างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 125 กรัมต่อกิโลเมตร เป็นเจ้าของพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซคคูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive) ด้วยราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท
พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo)
ปิดท้ายด้วย พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo) ที่สุดแห่งการออกแบบสุดหรูหราและล้ำสมัยด้วยรูปแบบที่นั่ง 4+1 พรั่งพร้อมด้วยความอเนกประสงค์ โดดเด่นด้วยฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ปริมาตรความจุ 520 ลิตร และพนักพิงหลังบริเวณห้องโดยสารตอนท้าย สามารถพับเก็บและเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 1,390 ลิตร พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4-E Hybrid Sport Turismo) คันนี้ ให้พลังงานการขับเคลื่อนสูงสุดถึง 462 แรงม้า มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 56 กรัมต่อกิโลเมตร สนนราคา 9.5 ล้านบาท