เครื่องยนต์ของรถยนต์ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวหลายชิ้นที่ต้องรับแรงดันและความร้อนที่สูงมากขณะทำงาน น้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีบทบาทสำคัญในการปกป้องชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ให้เกิดการสึกหรอและเสียหาย พร้อมกับปกป้องชิ้นส่วนจากความร้อนที่ไม่จำเป็นต่อการทำงานซึ่งเกิดจากการเสียดทานภายในเครื่องยนต์ คุณภาพของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับเกรดของน้ำมันตั้งต้นและสารเติมแต่งในสูตรของน้ำมัน ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ตลอดทั้งช่วงอุณหภูมิเครื่องยนต์ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทุกประเภทจะมีคุณภาพลดต่ำลงตามเวลาและการใช้งานเนื่องจากเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและการปนเปื้อน ดังนั้นจึงจำเป็น ต้องเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำตามกำหนดการดูแลรักษารถยนต์ปกติ
บ๊อช บริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์กว่า 130 ปีแนะนำผู้ขับขี่ให้เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทุกๆ 5000 กิโลเมตรสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์กึ่งสังเคราะห์ และ 10,000 กิโลเมตรสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์สังเคราะห์แท้ หรือทุกๆ 6 เดือน (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) บ๊อช ยังสนับสนุนให้ผู้ขับขี่เลือกลงทุนใช้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยงเครื่องยนต์ชำรุดเสียหาย ซึ่งนำไปสู่การซ่อมแซมเครื่องยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง
“ผู้ขับขี่รถยนต์มักมองข้ามคุณภาพและผลกระทบของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ การใช้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่ใหม่และมีคุณภาพสูงให้ประโยชน์มากมาย ตั้งแต่ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ไปจนถึงการลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์” กุลธัช บุญบงการ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายอะไหล่รถยนต์ บ๊อช ประเทศไทยกล่าว
น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทำหน้าที่หลายด้านเพื่อปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการเสียดทานด้วยการสร้างชั้นเลเยอร์ของเหลวระหว่างชิ้นส่วนโลหะเคลื่อนที่ และลดสิ่งปนเปื้อนอันเป็นผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงซึ่งทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ช่วยเคลือบชิ้นส่วนและยังปกป้องชิ้นส่วนโลหะไม่ให้เกิดสนิมและการกัดกร่อน ปัจจัยเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ออกซิเดชันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดกับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ตามปกติ ซึ่งทำให้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีความหนืดข้นขึ้นตามระยะเวลาใช้งาน ถ้าน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีความหนืดข้นมากเกินไปก็จะไม่สามารถไหลเวียนภายในเครื่องยนต์เพื่อปกป้องชิ้นส่วนได้ดี ในทางกลับกัน น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์จะเจือจางลงเมื่อเครื่องยนต์มีความร้อนสูงขึ้นและอาจเจือจางจนซึมเข้าสู่ห้องเผาไหม้เชื้อเพลิง ซึ่งมักเกิดขึ้นในสภาพอากาศร้อนอย่างในประเทศไทยที่เครื่องยนต์จะมีความร้อนสูงขึ้นเร็วกว่าสภาพอากาศรูปแบบอื่น” กุลธัชกล่าว
“น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพต่ำกว่าจะมีอายุใช้งานสั้นกว่า ทำให้ผู้ขับขี่ประสบความไม่สะดวกเพราะต้องเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์บ่อยขึ้น ถ้ายังฝืนใช้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์คุณภาพต่ำต่อไป สมรรถนะของเครื่องยนต์จะแย่ลงหรืออาจทำให้ชิ้นส่วนเสียหายนำไปสู่การซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง” กุลธัชกล่าวเพิ่มเติม “น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพจะมีความทนทานต่อปฏิกิริยาออกซิเดชันได้มากกว่าและยังสามารถรักษาระดับความข้นหนืดได้ตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Comments
comments