MG3 HatchBack! Unlimited Fun & Freedom รถขับยาก…หรือคุณขับไม่เป็นกันแน่?
เรื่อง…EDITOR
นี่คงเป็นรถเล็กรุ่นน้องสุดท้องจากค่ายเอ็มจี ที่มาด้วยแนวคิด Born with Fun แปลง่ายๆ ว่า แค่เห็นก็รู้สึกสนุก ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ขับขี่ในทันที และก็คงต้องยอมรับว่า เป็นเช่นนั้นจริงยามแรกสัมผัสด้วยสายตา เพราะทรวดทรงโค้งเว้าของรูปร่าง รวมถึงจุดตัดอันเป็นเหลี่ยมคมของด้านนอก มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใครในท้องตลาดเลยจริงๆ ก่อนจะใส่รายละเอียดและลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารอย่างน่าสนใจ
เร่ิมต้นจากตัวถัง หลังคา และฝาครอบกระจกมองข้าง ที่สามารถเลือกสีตัดกันได้อย่างใจต้องการ ขับไปไหนใครๆ ล้วนรู้ว่า รถคันนี้เป็นของใครไปไม่ได้…นอกจากคุณเท่านั้น ก่อนจะสะดุดสายตาด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL-Daytime Running Light) ลากเส้นสายตรงมุมล่างของขอบกันชนหน้า ส่วนภายในดวงตาคู่หน้า (หลอดไฟ) จะถูกครอบด้วยสัญลักษณ์ MG อันโดดเด่น สมทบเข้าไปด้วยหลังคาซันรูฟเปิด- ปิดด้วยไฟฟ้า อันไม่น่าเชื่อว่า รถในราคาขนาดนี้จะกล้าให้
ภายในห้องโดยสารนั้นดูเรียบและล้ำ ด้วยโทนสีเทาและดำเป็นหลัก แม้เบาะผู้ขับขี่จะไม่ได้ปรับด้วยระบบไฟฟ้า แต่มันก็คงไม่จำเป็นเท่าไหร่ ในเมื่อมีคุณขับเป็นประจำอยู่เพียงคนเดียว ส่วนคันหรือปุ่มบังคับต่างๆ อาจจะต้องปรับความรู้สึกกันใหม่บ้าง อย่างก้านไฟเลี้ยวและก้านบังคับปัดน้ำฝนที่สลับด้านกันกับรถญี่ปุ่นทั่วไป ปุ่มเปิด-ปิดล็อคประตูที่มาอยู่บนคอนโซลกลาง บริเวณเดียวกับแผงบังคับแอร์อัตโนมัติ และปุ่มไฟระวังที่บังคับหลอดไฟเลี้ยวให้กระพริบพร้อมกัน 4 ดวง ตรงใกล้ๆ เบรกมือ
ต้องยอมรับว่าขนาดกว้าง 1,728 เซนติเมตร ยาว 4,018 เซนติเมตร และสูง 1,517 เซนติเมตร ส่งผลถึงความโออ่าของห้องโดยสารได้อย่างมาก แม้จะไม่ถึงขนาดกว้างขวางให้แมวดิ้นตายได้ แต่กลับนั่งสบายทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง นั่นยังไม่นับถึงความปลอดโปร่งเหนือศีรษะ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดฝ้าเพดานให้ความสว่างสาดแสงเข้ามาก็ตาม ขณะที่กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับขุมพลังนั้น เอ็มจี3 ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้พละกำลัง 106 แรงม้า ถ้าถามว่า แรงเพียงพอสำหรับรถยนต์คันนี้ไหม? ตอบได้ทันทีว่า เหลือเฟือต่อการขับขี่เลยทีเดียว แถมเครื่องยนต์ดังกล่าว ยังรองรับน้ำมันอี85 จึงไม่ต้องมีข้อเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับความประหยัดเลยสักนิด แต่จะติดอยู่หน่อยตรงหน้าตาของเกียร์อัตโนมัติแบบ SeleMatic 5 สปีด ที่มีร่องคันโยกแค่คล้ายคลึงกับเกียร์ธรรมดา ซึ่งตำแหน่งเกียร์ 1 และเกียร์ 2 หายไป
ความคิดแรกต่อเกียร์แบบนี้คือ เข้าเหมือนเกียร์ธรรมดา ไล่ไปตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงเกียร์ 5 แค่ดันขึ้นหรือดึงลงตามสัญลักษณ์ + และ – ซึ่งปรากฎอยู่ ขณะที่เกียร์ว่างนั้นโยกลงมาไว้ตรงร่องกลาง ส่วนเกียร์ถอยหลังนั้นตบมาทางขวาสุด ก่อนจะโยกลงข้างล่างให้สุดก็เป็นอันเสร็จพิธี ช่างเป็นเกียร์ที่ดีจริงๆ เพราะไม่ต้องเหยียบแป้นคลัชท์ใดๆ ให้ยุ่งยาก จะให้เข้าและเปลี่ยนเกียร์เร็วขนาดไหนก็เร่งน้ำหนักคันเร่งเข้าไป แต่!…ทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิดมหันต์ และนำมาปฏิบัติกับเกียร์อัตโนมัติชนิดนี้ไม่ได้
ยามรถจอดนิ่งบนพื้นเรียบตามปกติ คันเกียร์จะถูกโยกไปทางขวาสุดแล้วตบขึ้นข้างบน นี่ถือเป็นตำแหน่ง N หรือเกียร์ว่าง (ตำแหน่งเกียร์ 5 ในเกียร์ธรรมดา) เมื่อดึงลงและปล่อยคันเกียร์จะไหลไปอยู่ในตำแหน่ง D อย่างอัตโนมัติ (ตำแหน่งเกียร์ว่างในเกียร์ธรรมดา อยู่ระหว่างเกียร์ 3 และเกียร์ 4) ดังนั้น คุณจึงต้องปรับเปลี่ยนความรู้สึกใหม่ให้หมด จะใช้ความเคยชินกับเกียร์ธรรมดามาขับเกียร์อัตโนมัติ SeleMatic 5 สปีดไม่ได้ ส่วนที่เหมือนกันอยู่ประการเดียวคือการเข้าเกียร์ R หรือเกียร์ถอยหลัง ด้วยการดันคันโยกมาทางขวาสุดแล้วกดลงด้านล่างให้หมดนั่นเอง
ความพิเศษที่ต้องทำความเข้าใจมากไปกว่านั้นคือ ในตำแหน่งเกียร์ D นั้น ยังมีโหมด A หรือออโต้ตามปกติ หรือถ้าต้องการความฉับไวในการเข้าเกียร์ เพื่อการตอบสนองในการขับขี่ที่สนุกเร้าใจกว่า ก็สามารถเปลี่ยนเป็นโหมด S หรือสปอร์ตได้ เพียงกดปุ่มสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนฐานคันเกียร์ด้านขวาบนค้างไว้ประมาณ 1 วินาที โดยไม่ต้องรอให้รถหยุดนิ่ง แต่ถ้าโหมดสปอร์ตยังไม่ได้ดั่งใจต้องการ คุณสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์เพิ่มหรือลดด้วยตัวเอง ด้วยการโยกคันเกียร์จากตำแหน่ง D ไปทางซ้ายสุดและค้างไว้ประมาณ 1 วินาที (โดยไม่จำเป็นต้องจอดรถ) ก่อนจะสับเกียร์ขึ้นและลงตามสัญลักษณ์ + และ – ตามใจปรารถนา
ปัญหาที่ถามบ่อยมากสำหรับผู้ใช้เอ็มจี3 คือ แม้จะเป็นออโต้แต่เข้าเกียร์ช้า คลัชท์หน่วงไม่ทันใจวัยรุ่น ขนาดปรับเป็นโหมดสปอร์ต หรือปรับเพื่อการขับเคลื่อนแบบแมนมวลก็ตาม คำตอบนั้นไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่า การทำความเข้าใจธรรมชาติของเกียร์อัตโนมัติลูกนี้เพิ่มขึ้นอีกนิดว่า ฟีลลิ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกในการขับขี่นั้น (Born with Fun!) ต้องมาจากรากฐานการขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดาเป็นพื้นฐาน มีอารมณ์ของการหน่วง การฉุด ก่อนจะพุ่งทะยานเกินใจคิดไปตามลำดับเกียร์ที่สูงขึ้น
ตลอดระยะเวลา 7 วัน ที่กินอยู่หลับนอนกับรถคันนี้ ผมเปลี่ยนโหมดการขับขี่อยู่ตลอดเวลา เพื่อดูว่า โหมดการขับขี่ทั้ง 3 แบบ มีบุคลิกการทะยานไปข้างหน้าแตกต่างกันจริงไหม? และตอบสนองการขับขี่ของผู้ขับธรรมดาๆ ได้มากน้อยขนาดไหน? จนสามารถสรุปออกมาได้ว่า แค่โหมด A ธรรมดาก็ขับสนุกขับฟันเกินใจคาดคิดแล้วล่ะ เพียงคุณรู้จักจับเสียงเครื่องยนต์เพื่อจับจังหวะการเข้าเกียร์อัตโนมัติตามลำดับให้ได้ การพุ่งทะยานไปข้างหน้าก็จะเป็นไปด้วยความไหลลื่น แถมด้วยการถอนคันเร่งซึ่งตามมาด้วยการเอ็นจินเบรกอย่างชัดเจน อันถือเป็นประโยชน์มาก
การออกตัวจากแยกไฟแดงเมื่อได้รับสัญญานไฟเขียว ไม่ได้น่าเกลียดขนาดรถซีซีไล่เลี่ยกันมากดดันอยู่ข้างหลัง จะหนืดและเฉื่อยหน่อยจากเกียร์ 2 ไป 3 หากคุณตะบี้ตะบันกดคันเร่งลงไปจะให้มิด ลองหันกลับมาสังเกตความเร็ว ฟังเสียงรอบเครื่อง ถอนคันเร่งสักนิดก่อนย้ำลงไปกระตุ้นให้เกิดการเข้าเกียร์ต่อไป สถานการณ์ทุกอย่างก็จะคลี่คลายและไปได้สวย หลังจากนั้นคุณจะไหลไปจนสุดเกียร์พร้อมความเร็วเท่าที่ใจต้องการ
ย่ิงไปกว่านั้น การต้องเจอกับการเข้าโค้งแบบเกือกม้าขณะที่มาด้วยความเร็วสูง ต้องตั้งสติจับพวงมาลัยให้แน่น พร้อมรับสถานการณ์ข้างหน้าที่อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ในเสีี้ยววินาที ประเมินโค้งข้างหน้าด้วยสายตามองไกลจนหมดเคิร์ฟ ถอนคันเร่งออกให้เกิดการเอนจินเบรกขึ้นมาทันที ซึ่งเอ็มจี3 คันนี้สามารถทำได้ดี ก่อนจะแตะเบรกเพิ่มเพื่อแต่งทรงรถก่อนเข้าโค้ง พร้อมการคอนโทรลพวงมาลัยอย่างแม่นยำ ก็สามารถทำให้รถเล็กๆ คันนี้ ผ่านสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างฉับไว ด้วยความปลอดภัยสูงสุด
ช่วงล่างจากโรงงานที่ปรับมาแบบ Euro Tunning Suspension ให้ความนุ่มหนึบ โยกเข้าโค้งอย่างมั่นใจโดยไม่โยนกลับ น้ำหนักพวงมาลัยที่ปรับเปลี่ยนตามความเร็วและพอเหมาะกับทุกสถานการณ์ รวมถึงระบบความปลอดภัยทุกอย่างที่พึงพอมีล่าสุดล้วนถูกติดตั้งลงในเอ็มจี3 อย่างครบครัน โดยเฉพาะถุงลมนิรภัยซึ่งคงไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องมาทำการทดสอบ นอกจากในสถานการณ์สุดวิสัยจริงๆ เท่านั้น!
MG3 HatchBack 1.5X Sunroof ไม่ใช่รถอีโค คาร์ แต่กลับมีความประหยัดและขับสนุกกว่าตามสไตล์ Brit Dynamic โดยตอกย้ำที่ค่าตัวอันจับต้องได้ 559,000 บาท แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในกลุ่มรถเล็กของผู้บริโภคได้อย่างไร