คาราวานมิตซูบิชิ กระชับสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 130 ปี
เรื่อง: Sirote petchjamroensuk
ความสัมพันธ์ระหว่างชาวญี่ปุ่นและชาวไทยเริ่มต้นตั้งแต่สมัยสุโขทัยเรื่อยมาจนถึงสมัยอยุธยา ก่อนจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในรูปแบบความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อมีการลงนาม “หนังสือปฏิญญาว่าด้วยทางพระราชไมตรี และการค้าขายระหว่างประเทศสยามกับประเทศญี่ปุ่น” จวบจนปัจจุบันทั้งสองประเทศได้เจริญความสัมพันธ์ครบรอบ 130 ปี บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงจัดกิจกรรมคาราวานทดสอบรถยนต์ พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อกระชับสายสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นย่ิงขึ้น
มร.โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากอดีตสู่ปัจจุบันรถยนต์มิตซูบิชิได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากยอดขายของบริษัทฯ ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญีปุ่นในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้จัดกรรมคาราวานทดสอบรถยนต์เพื่อร่วมกระชับความสัมพันธ์”
“โดยมีจุดหมายปลายทางยังจังหวัดอยุธยา พร้อมเยี่ยมชมหมู่บ้านญี่ปุ่นเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ชาติ รวมไปถึงการพาเหล่าสื่อมวลชนไปชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงเก่า พร้อมกับการทดสอบยานยนต์เทคโนโลยีสูงของมิตซูบิชิครบทั้ง 4 รุ่น” อันได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ มิตซูบิชิ แอททราจใหม่ และมิตซูบิชิ มิราจใหม่
หมุดหมายแรกถูกปักไว้ที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 17 บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดอยุธยา โดยมีมร.นางามาสะ ยามาดะ เป็นผู้นำของหมู่บ้าน ในอดีตมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ไม่น้อยกว่า 1,500 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นพ่อค้าและนักรบ นั่นรวมถึงมร.ยามาดะด้วย ต่อมาผู้นำหมู่บ้านได้มีโอกาสเข้าร่วมรบในกองทัพสยาม และประสบความสำเร็จด้วยทักษะทางการทหารที่ยอดเยี่ยม รวมถึงความจงรักภักดีต่อสยาม จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น “ออกญาเสนาภิมุข” และภายหลังยังได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นตำแหน่งสูงสุดที่ชาวญี่ปุ่นได้รับในสมัยอยุธยา
นอกจาก “ออกญาเสนาภิมุข” แล้ว ยังอีกบุคคลหนึ่งที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านญี่ปุ่นคือ คุณหญิงมารี กีมาร์ เดอ ปีนา ลูกครึ่งญี่ปุ่น-โปรตุเกส ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น “ท้าวทองกีบม้า” หลังรับราชการในพระราชวังในตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น โดยเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ให้กำเนิดต้นตำรับขนมไทยทั้งทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งขนมไทย” ก่อนจะพาสื่อมวลชนผู้ร่วมกิจกรรมไปลองทำขนมไทยด้วยตัวเอง แล้วร่วมขบวนชมทัศนียภาพเมืองหลวงในอดีตของประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ทุกรุ่นของมิตซูบิชิ
สำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ จะสร้างประสบการณ์ให้ผู้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวอย่างมั่นใจ ด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงครบครัน ทั้งอุปกรณ์เชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุและเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ เช่น ACC ระบบล็อคความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ, FCM ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว, UMS ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
ขณะที่มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่นั้น มอบสมรรถนะแห่งการขับขี่เหนือระดับ ด้วยเครื่องยนต์ MIVEC Clean Diesel ขนาด 2.4 ลิตร โดยเสื้อสูบและฝาสูบเป็นอลูมินัมอัลลอย ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมลุยทุกสภาพถนนด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select 4WD II และระบบล็อคเฟืองท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ส่วนการขับขี่ที่คุ้มค่าและประหยัดน้ำมันต้องยกให้กับมิตซูบิชิ แอททราจใหม่ และมิตซูบิชิ มิราจใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 12 วาล์ว ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ INC และ G-Sensor ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรในแอททราจใหม่ และ 23.8 กิโลเมตรต่อลิตรในมิราจใหม่