web analytics

ติดต่อเรา

The Ten การปัดฝุ่นรองเท้าในตำนาน มาตีความใหม่จากไนกี้

นอกจากจะขยันส่งรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ ออกมาสู้ท้องตลาด เพื่อตอบให้ทันความต้องการอันเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาแล้ว ไนกี้ยังตีโจทย์การทำงานให้แปลกใหม่ไปกว่านั้น เห็นได้ชัดจากโปรเจ็คล่าสุด The Ten อันเป็นความร่วมมือกับเวอร์จิล อา-เบลาะ (Virgil Abloh) ครีเอทีพไดเร็คเตอร์ ดีเจ ดีไซเนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ออฟ-ไวท์ (OFF-WHITE) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผสมผสานกระบวนการสร้างสรรค์หลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างนิยามใหม่ของแฟชั่นและการออกแบบ

อา-เบลาะอธิบายว่า “สิ่งที่เรากำลังทำมันไม่ใช่การออกแบบรองเท้ากีฬา และมันเป็นมากกว่าการนำเสนอวัฒนธรรมการออกแบบใหม่ นี่คือการสร้างสรรค์งานศิลปะบนรองเท้ากีฬา โดยรองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้ เป็นรองเท้าที่ทลายขีดจำกัดทั้งด้านการออกแบบ และด้านคุณสมบัติทางการกีฬา รองเท้าทั้งหมดอยู่ในระดับเดียวกับรูปปั้นเดวิดหรือภาพโมนาลิซ่า คุณอาจไม่เห็นด้วย แต่รองเท้าเหล่านี้มีสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากแฝงอยู่ และนั่นคือข้อสำคัญที่สุด”

เจ้าของแบรนด์ออฟ-ไวท์ ผู้เริ่มต้นเรียนรู้วิชาออกแบบจากรองเท้ากีฬา ปกอัลบั้มเพลงร็อคและฮิป-ฮอป รวมถึงการวาดกราฟิตี้ ก่อนจะนำประสบการณ์มาผสมผสานกับวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ อารมณ์ขันของตนเอง และลูกเล่นแบบงานแฮนด์เมดเข้าไปในผลงาน มีแนวทางในการออกแบบเดอะ เท็นเป็น 2 แนวคิด ด้วยการแบ่งรองเท้าทั้งหมด 10 รุ่น ออกมาเป็น 2 กลุ่มเท่าๆ กัน ให้สะท้อนความเป็นตัวเองมากที่สุด

แนวคิดแรกคือ “Revealing” สำหรับรองเท้าที่ออกแบบให้ดูเรียบง่าย ก่อนจะสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยมือให้มีรูปลักษณ์อันเปิดเผยขึ้นกว่าเคย รองเท้าในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยไนกี้ แอร์ จอร์แดน 1 (Nike Air Jordan I), ไนกี้ แอร์ แมกซ์ 90 (Nike Air Max 90), ไนกี้ แอร์ เพรสโต้ (Nike Air Presto), ไนกี้ แอร์ เวเปอร์แมกซ์ (Nike Air VaporMax), และไนกี้ เบลเซอร์ มิด (Nike Blazer Mid)

วิธีการของอา-เบลาะคือ ใช้มีดสำหรับงานศิลปะตัดลิ้นรองเท้าเพื่อเปิดเผยโฟมที่ซ่อนอยู่ เอาตราสัญลักษณ์ของไนกี้บนลิ้นรองเท้าออกไป ย้ายโลโก้ไนกี้ด้านข้างรองเท้าไปอีกจุดหนึ่งพร้อมกับขยายขนาด ก่อนจะเติมแถบสีส้มลงไปตามจุดต่างๆ ของตัวรองเท้าเพื่อเพิ่มสีสัน โดยรองเท้าแต่ละคู่จะมีแถบสีส้มในจุดที่ไม่ซ้ำกัน ที่สำคัญคือ มีการสะท้อนแสงในลักษณะที่เปิดเผย ตามชื่อของกลุ่มรองเท้า

ส่วนแนวคิดที่สองคือ “GHOSTING” ด้วยการนำเสนอหน้ารองเท้าแบบโปร่งแสง เสมือนให้เจ้าของได้เห็นทุกรายละเอียดของรองเท้า โดยมีความเป็นหนึ่งเดียวกันจากการใช้วัสดุที่คล้ายคลึงกันเพื่อผลิตรองเท้าทุกรุ่นขึ้นมา ประกอบด้วยคอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ (Converse Chuck Taylor), ไนกี้ ซูม ฟลาย เอสพี (Nike Zoom Fly SP), ไนกี้ แอร์ ฟอร์ซ 1 โลว์ (Nike Air Force 1 Low), ไนกี้ รีแอก ไฮเปอร์ดังก์ 2017 (Nike React Hyperdunk 2017) และไนกี้ แอร์ แมกซ์ 97 (Nike Air Max 97)

รองเท้าทั้ง 10 รุ่น ในโปรเจ็คเดอะ เท็น พร้อมจะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่า จะถูกหมายตาและจับจองเป็นเจ้าของจากเหล่านักสะสมจากทั่วโลกอย่างแน่นอน ขณะที่สาวกไนกี้ในเมืองไทยคงต้องคอยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะถูกผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัดและคัดสถานที่วางจำหน่ายอีกต่างหาก

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *