Samsung The Frame เปลี่ยนทีวีให้กลายเป็นงานศิลปะ
เรื่อง: sirote petchjamroensuk
จริงๆ แล้วโทรทัศน์มีกรอบหรือขอบจอภาพมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ก่อนจะถูกพัฒนาความหนาของตัวเครื่องให้ลดลง พร้อมๆ กับขอบที่หดตัวไปเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด กระทั่งในที่สุดจึงเข้าสู่ยุคของทีวีไร้กรอบ ด้วยดีไซน์แห่งความอิสระแห่งการรับชม พร้อมขยับขยายความใหญ่โตแห่งการแสดงภาพออกมาชนิดไร้ขีดจำกัด แต่ก็ยังไม่สามารถสลัดภาพความเป็นกล่องและกรอบออกมาได้ ในเมื่อความเข้าในแต่แรกของคนทั่วไป ยอมรับโทรทัศน์ในแง่ของกล่องหรือตู้แสดงภาพเคลื่อนไหว
ยิ่งเมื่อปิดหน้าจอเรียบร้อยแล้ว ความดำสนิทได้กลายเป็นจุดบอดของห้อง และความไม่น่ามองในบ้านไปอย่างปริยาย ส่งผลให้กลายเป็นปัญหาสำหรับอีฟ เบฮาร์ (Yves Behar) ดีไซน์เนอร์และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ชื่อดังชาวสวิส ผู้ก่อตั้งบริษัท Fuseproject เจ้าของผลงานดีไซน์ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Prada, Swarovskij, Issey Miyake และล่าสุดกับซัมซุง ในการคลี่คลายจุดด้อยดังกล่าว ด้วยประสบการณ์สั่งสมในวงการกว่า 20 ปี
“เราต่างพยายามค้นหาวิธีใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคจะใช้ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับทีวี ซึ่งในแต่ละวันนั้น คนเราดูทีวีเฉลี่ยเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เราจึงอยากให้ทีวีกลมกลืนไปกับทุกห้องในบ้านได้อย่างลงตัว ไม่ใช่เป็นเพียงจอดำในช่วงที่เราไม่ได้ดูทีวี โดยแนวคิดหลักคือ ทีวีรุ่นนี้จะต้องเป็นมากกว่าทีวี นี่จึงเป็นเหตุผลให้เปลี่ยนกล่องสีดำที่ทุกคนชินชา กลายเป็นงานศิลป์สวยงามสะกดทุกสายตา และเป็นที่มาของ “Samsung The Frame”
หัวใจหลักของโทรทัศน์รุ่นนี้คือ ประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับ (User Experience) นอกเหนือไปจากการรับชมรายการ ภาพยนตร์ หรือความบันเทิงที่คุณโปรดปรานแล้ว หลังจากจบหรือปิดการใช้งานแล้ว เดอะ เฟรมจะทำหน้าที่แสดงภาพงานศิลปะระดับโลก ของศิลปินต่างๆ หมุนเวียนขึ้นมาแสดงบนจอภาพอย่างอัตโนมัติ โดยมีการปรับเพิ่มและลดความสว่างเองตามช่วงเวลาต่างๆ ตลอดวัน ด้วยกลไกอันชาญฉลาดของ Brightness Sensor
ส่วนใครที่กังวลว่า โทรทัศน์จะต้องทำงานตลอดเวลา 24 ชั่วโมงและกินไฟมากกว่าการใช้งานปกติหรือเปล่า? เดอะ เฟรมจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ทางด้านหน้าจอภาพ ใช้ตรวจจับว่ามีคนอยู่ในห้องหรือไม่ ก่อนจะสั่งการให้โทรทัศน์เปิดหรือปิดอย่างอัตโนมัติ โทรทัศน์จึงทำหน้าที่ได้อย่างแม่นยำและถูกจังหวะ ถือเป็นยุคใหม่ของทีวีซึ่งใช้หน้าจอแสดงผลงานศิลปะในแบบดิจิตัลเลยทีเดียว
เดอะ เฟรม จึงกลายเป็นผลลัพธ์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดในการแสดงภาพและเสียง เข้ากับการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง รวมถึงได้ก้าวข้ามขั้นจากความเป็นโทรทัศน์ กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญซึ่งต้องติดตั้งและมีเอาไว้ในบ้านอย่างขาดไม่ได้
