‘ซีพีเอ็น’ โชว์ความสำเร็จ ‘CPNlead’ เสริมแกร่ง SMEs ดาวรุ่งอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมรับกระแสความท้าทายวงการค้าปลีก
- บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของไทย โชว์ความสำเร็จในการผลักดัน SMEs ไทยเข้าสู่ตลาดค้าปลีก ตอบรับกระแสความท้าทายยุคดิจิทัล ผ่านโครงการ CPNlead หลักสูตรแรกในวงการค้าปลีกไทยที่เข้มข้น ครอบคลุมทั้งทฤษฎีและทำตลาดจริง ช่วยเสริมแกร่ง SMEs รุ่นใหม่ให้ต่อยอดธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือของกลุ่มเซ็นทรัล นำโดยซีพีเอ็นและ ม.ธรรมศาสตร์ จัดติวเข้มเจ้าของธุรกิจ SMEs คนรุ่นใหม่รวม 34 แบรนด์ที่มีศักยภาพพร้อมเติบโตและมีแนวคิดไม่เหมือนใคร เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับการทำธุรกิจและต่อยอดแบรนด์ให้ทดลองตลาดและขายจริง ซึ่งมีซีพีเอ็นดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยมีปรีชา เอกคุณากูล บอสใหญ่ซีพีเอ็น มอบรางวัลให้แก่ SMEs ดีเด่น 3 อันดับแรกที่มีไอเดียปั้นธุรกิจได้โดดเด่นที่สุดคือซาลาเปาโฮลวีทแบรนด์ BUN101, แฟชั่นมัลติแบรนด์ CAMP และ คอนเซ็ปต์สโตร์ชุดเครื่องนอนและของแต่งบ้านแบรนด์ VINTEL
-
ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ปัจจุบัน ตลาดค้าปลีกมีความท้าทายขึ้นอย่างมาก ด้วยกระแสเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ซีพีเอ็น ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาศูนย์การค้า เราคือผู้ริเริ่ม บุกเบิก และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจรีเทลเสมอมา จึงได้เล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้คู่ค้าและผู้ประกอบการ SMEs ไทย ด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่เป็นรูปธรรม และครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่ หนึ่ง คือการให้องค์ความรู้ในการทำธุรกิจและจับคู่ทางธุรกิจกับบริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ผ่านโครงการ ‘SMEs Think Big’ สอง คือสร้างโอกาสในการขาย ชี้ช่องทางจัดจำหน่าย ผ่านโครงการ ‘SMEs Market Place – ไทยช่วยไทย บายประชารัฐ’ ซึ่งร่วมมือกับภาครัฐ เปิดพื้นที่ให้ SMEs ได้จำหน่ายสินค้าที่ศูนย์การค้าบนทำเลศักยภาพของซีพีเอ็นทั่วประเทศ และสาม คือการสร้าง Innovation ในด้านต่างๆ ติดอาวุธให้ผู้ประกอบการได้ริเริ่มสิ่งใหม่ ผ่านโครงการล่าสุด ‘CPNlead’ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ SMEs รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมเติบโต โดยให้ความรู้เชิงลึก เข้มข้น ให้รู้จักเครื่องมือทางธุรกิจอย่างครอบคลุม และสนับสนุนพื้นที่ในการลงมือทำตลาดจริง เพื่อสร้างความพร้อมให้ SMEs สามารถที่จะต่อยอดธุรกิจได้ทันที ซึ่งโครงการนี้เรามุ่งสร้าง SMEs ที่มีศักยภาพเติบโตจริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เช่าของเราหรือเปิดร้านกับเรา เพื่อมุ่งพัฒนา SMEs ไทยอย่างแท้จริง”
ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “CPNlead เป็นหลักสูตรทางธุรกิจแรกในวงการค้าปลีกที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ SMEs ไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง SMEs ที่เข้าร่วมโครงการนี้เป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ มีแนวคิดที่แตกต่าง และที่สำคัญคือศักยภาพที่จะต่อยอดและขยายธุรกิจได้ ซีพีเอ็นตั้งใจให้หลักสูตรนี้เป็น ‘Gateway to Success’ ที่รวบรวมทุกกลยุทธ์ทางธุรกิจไว้ในโปรแกรมเดียวบนพื้นฐาน ‘Customer Centric’ ที่มองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เพื่อให้ SMEs ในทุกระดับสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยซีพีเอ็นได้ใช้ความเชี่ยวชาญและจุดแข็งใน 3 ด้านในการพัฒนาหลักสูตร คือ องค์ความรู้ในเชิงกว้างและลึกจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 36 ปี ช่องทางการจัดจำหน่ายในศูนย์การค้าทั่วประเทศทั้ง 30 ศูนย์ในทุกภูมิภาคที่เข้าถึงผู้คนในท้องถิ่นต่างๆ และการสร้าง Partnership จากเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของเซ็นทรัลกรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นภายในกลุ่มเซ็นทรัลเอง กับคู่ค้าหรือ Tenant ของเรา หรือ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน”
“ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกของซีพีเอ็น เรามีความหวังที่จะปั้นดาวรุ่ง SMEs หน้าใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสอดรับกับนโยบายของประเทศ ที่ต้องการพัฒนาผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ และหวังว่าผู้เข้าอบรม CPNlead จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศที่จะมาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการค้าปลีกและเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีซีพีเอ็นเป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้เรื่องนี้” คุณปกรณ์ กล่าวเสริม
ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม. ธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการดูแลหลักสูตร CPNlead กล่าวว่า “การร่วมมือกับซีพีเอ็นซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาศูนย์การค้า ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการศึกษาที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนคือการเปิดพื้นที่ศูนย์การค้าที่ ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ และ ‘เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์’ ให้ SMEs ได้ทดลองตลาดจริง ได้ศึกษากลุ่มผู้บริโภคจริง ผ่านกิจกรรมเวิร์คช้อปออกร้านป๊อปอัพสโตร์ ‘รวมมิตรมาร์เก็ต’ ที่จัดขึ้น 2 ครั้ง เพื่อสร้างให้ SMEs ได้เรียนรู้จากการทำงานเป็นกลุ่มในการสร้างสรรค์แบรนด์ในรูปแบบ Hybrid Concept ผสานผสานไอเดียสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ และการลงมือพัฒนาแบรนด์ของตัวเอง เพิ่มพูนทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่ง SMEs จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการพบเจอและเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงสร้างคอนเน็กชั่นกับเพื่อน SMEs การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ และการคิดค้นสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้ SMEs นำไปต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองได้ในชีวิตจริง”
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับ SMEs ดีเด่น 3 อันดับแรกที่มีผลงานและสร้างสรรค์แบรนด์ได้โดดเด่นที่สุด เห็นผลทางธุรกิจชัดเจน สามารถต่อยอดได้ทันที ซึ่งได้รับรางวัลเป็นสิทธิพิเศษในการเช่าพื้นที่เพื่อต่อยอดธุรกิจกับ ซีพีเอ็น ได้แก่
- ชนะเลิศอันดับ 1: คุณฉัตรชัย วงศ์มหเจริญ จากแบรนด์ BUN101 ซาลาเปาโฮลวีท แคลอรี่ต่ำ ปราศจากไขมันทรานส์ ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม จากการเข้าร่วมหลักสูตร CPNlead ทำให้สามารถครีเอทเมนูอาหารใหม่ๆ เช่น ทำ meal box โจ๊กข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่, หมั่นโถวหมูตุ๋น, ซุปอกไก่ตุ๋นยาจีน และขนมหวานจากเต้าหู้และขนมหวานสไตล์เอเชีย
- ชนะเลิศอันดับ 2: คุณจิตพล ศิริวัฒเมธางกูร จากแบรนด์ CAMP ร้านแฟชั่น Multi-brand ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นของ Local Designer หลายร้อยคน ซึ่งเมื่อผ่านหลักสูตรมีความโดดเด่นในการสร้าง Business Solution ใหม่ โดยได้นำเอา
- เทรนด์การทำธุรกิจแบบ omnichannel ที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงสื่อสารแบบไร้รอยต่อ หรือ Seamless Communication ตั้งแต่การจัดการซัพพลายเออร์ ไปจนถึงบริการหลังการขายแบบ real-time ที่เพิ่มยอดขายได้ อาทิ การมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าให้ได้มาลองสินค้า และเมื่อตัดสินใจซื้อ พนักงานของร้านจะมี tablet ที่สามารถเช็คสต็อกสินค้า โปรโมชั่น ตรวจสอบยอดขายได้ทันที และหากสินค้าหมดสต็อกที่ร้าน ยังบริการส่งสินค้าถึงบ้านจากร้านที่สาขาอื่นได้อีกด้วย
- ชนะเลิศอันดับ 3: คุณรัตติยา วรรัตน์ จากแบรนด์ VINTEL คอนเซ็ปต์สโตร์ชุดเครื่องนอนและของแต่งบ้าน ประสบความสำเร็จในการสร้าง Partnership จากการเข้าร่วม CPNlead โดยสามารถต่อยอดจากการขายสินค้าประเภทเครื่องนอนเพียงอย่างเดียวภายใต้แบรนด์ At bed at Home ก็ได้มีการพัฒนาไอเดีย และร่วมเป็นพันธมิตรกับ Miss Etoile (มิส เอตวนล์) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ถ้วยชามและของแต่งบ้านแนว Vintage และ Feminine ของเดนมาร์ก ทำให้กลายเป็น New Lifestyle Shop แบรนด์ใหม่ชื่อ VINTEL ที่จะมีของใช้ของตกแต่งบ้านที่หลากหลายไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์เครื่องนอนเพียงอย่างเดียว”