Honda Civic Hatchback! รถสปอร์ตพรีเมี่ยมแห่งยุค
เรื่อง: sirote petchjamroensuk
สปายช็อตหรือภาพหลุดของรถยนต์รุ่นนี้ออกมาแบบรัวๆ หลังจากฮอนด้าเปิดตัวซีวิค ซีดาน (4 ประตู) ไปได้ไม่นานนัก ทำเอาชมรมคนรักฮอนด้า มอเตอร์ สปอร์ต หายใจไม่เป็นจังหวะกันเป็นแถว เพราะทุกคนต่างลุ้นและเอาใจดันให้ฝันเป็นจริงบนท้องถนนเมืองไทย โดยต่างคนต่างมีเสียงสอดคล้องไปในทางเดียวกันว่า ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่สวยแล้ว เจอซีวิค แฮทช์แบ็คเข้าไป…ดันสวยยิ่งกว่า
แม้จะมีโครงสร้างหลักถอดแบบมาจากซีวิค ซีดาน แต่เมื่อเจอปรัชญาการออกแบบที่คืนพลังความหนุ่มสาว (Dynamic Rejuvenation) เข้าให้ ส่งผลให้ตัวรถมีความต่ำลงกว่าเดิมถึง 20 มิลลิเมตร และเป็นอานิสงฆ์ถึงความกว้างที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสัดส่วนอย่างช่วยไม่ได้ รวมถึงทำให้สามารถดีไซน์รถให้กลายเป็นพาหนะสปอร์ตหรู ณ เวลาปัจจุบัน อันได้มาตรฐานในการขับขี่ ได้การบังคับควบคุมที่ดี ควบคุมเสียงได้เป็นเยี่ยม ลดความสั่นสะเทือนหรือความกระด้างลง และยกระดับคุณภาพภายในห้องโดยสารขึ้นทันที
เตะตาด้วยรูปทรงหน้าลาดแต่ท้ายสูง ไฟคู่หน้าแบบบานเกล็ด LED แนวตั้ง ให้ความสว่างและเพิ่มทัศวิสัยอันชัดเจนยามค่ำคืน สอดรับกับกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต ที่มีช่องระบายอากาศดีไซน์รูปรังผึ้งปลุกอารมณ์มอเตอร์ สปอร์ต ขณะที่ไฟท้ายยังคงโดดเด่นด้วยทรงซีอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น พร้อมช่องระบายอากาศรูปรังผึ้งเช่นเดียวกับด้านหน้า ที่สำคัญ เมื่อมองด้านข้างจะสังเกตเห็นได้ชัดถึงระยะโอเวอร์แฮงค์สั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้ความสนุกในการขับขี่และเร้าใจยิ่งกว่า
ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Daring ACE Design” ซึ่งยึดผู้ขับขี่เป็นหลัก “Man Maximum, Machine Minimum” พนักพิงเบาะคู่หน้าเล็กและเรียวให้อารมณ์สปอร์ต ตำแหน่งการนั่งลดต่ำลงเพื่อทัศวิสัยการขับขี่อันเร้าอารมณ์ คอนโซลรอบตัวโอบล้อมเข้ามาหาผู้ขับขี่ พวงมาลัยสปอร์ตแบบสามก้านมัลติฟังก์ชัน พร้อมระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่ออย่างครบครัน
ขุมพลังของฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ค ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC Tubo พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม โดยลดขนาดเครื่องยนต์ลง แต่ให้แรงม้าเพิ่มมากขึ้น (Down Sizing) ด้วยระบบหัวฉีดไดไดเร็คท์ อินเจ็คชัน ฉีดจ่ายน้ำมันสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง พร้อมออกแบบท่อไอดีแบบตรงและเทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยอัดอากาศสู่ห้องเผาไหม้ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ได้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที
ผลลัพธ์ข้างต้นเทียบเท่ากับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่กลับให้ความประหยัดเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเลยทีเดียว โดยเทคโนโลยีขุมพลังดังกล่าวสะท้อนออกมาเป็นค่าตัวอย่างสมเหตุสมผลที่ 1.169 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาเพิ่มขึ้นถึงเทคโนโลยีแห่งการขับขี่อันล้ำหน้า บวกกับเทคโนโลยีแห่งความปลอดภัยชนิดจัดหนักจัดเต็มในฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็คคันนี้ บอกได้เลยว่า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!