กิน เที่ยว วันเดียว…อบอุ่นแบบรุ่นใหญ่ กับ All new chevrolet trailblazer 2017
เรื่อง…EDITOR
จะรักใครก็อย่ามองแค่ภายนอก ควรมองให้ลึกถึงหัวใจ วลีความรักยอดฮิตที่หนุ่มสาวใช้บอกรักกันก่อนเข้าสู่ช่วงข้าวใหม่ปลามัน…ก็เช่นเดียวกับมองรถสักคันที่อย่ามองความสวยงามแค่ภายนอก มันต้องมาลองแล้วจะรู้ว่าความสมบูรณ์แบบมันมีอยู่จริง…
เปิดมาก็เพ้อเพราะอากาศเป็นใจหรือป่าวก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามีรถดีๆ อย่าปล่อยให้เลยผ่าน หาที่กินที่เที่ยวช่วยเจ้านายใช้เงินดีกว่า สบายใจ อิอิ ครั้งนี้ Benewsonline มาขับของใหญ่สายพันธุ์อเมริกันอีก 1 ค่ายกับ “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่” ไปเที่ยวชมธรรมชาติ กันที่ จ.นครนายก มองความหล่อ มาดคมเข้ม จากภายนอก และนั่งสบายๆ สไตล์รถ อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม 7 ที่นั่ง ในส่วนภายใน อิหมวยก็ไม่รอช้าอีกเช่นเคย สตาร์ทรถด้วยรีโมทที่ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์ SUV ที่สามารถสตาท์รถเปิดแอร์ได้จากภายนอก ดูไฮโซ พรีเมี่ยมสมราคาจริงๆ
ขึ้นประจำคนขับปรับเบาะไฟฟ้า เปิดแอร์เย็นๆ พร้อมฟังเพลงเพราะๆ กับลำโพงภายใน 7 ตำแหน่ง โดยมีระบบ Chevrolet Mylink เชื่อมต่อพร้อมให้ความบรรเทิงที่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 7 เครื่อง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบสั่งการด้วยเสียง ต้องขอชมในเรื่องคอนโซลที่ออกแบบมาให้เข้ากับลักษณะของรถได้อย่างดี แข็งแรง และดูเหมือนจะเพิ่มพื้นที่ในส่วนด้านหน้าให้นั่งสบาย และใช้งานได้มากขึ้น แต่ทว่าขอติเพียงเล็กน้อยกับที่วางแก้วที่น่าจะพับเก็บได้ แม้แข็งขาอิหมวยจะไม่ได้ยาว แต่ก็ดูเกะกะไปสักนิด แต่รวมๆ แล้วมีสเน่ห์ เหมือนเพลงพี่ป้าง หละค๊า..
รถเคลื่อนขบวนไปได้ระยะทางนึง ด้วยความเร็วที่ใช้ตามกฎหมายกำหนด อาจมีเร่งแซง ปาดซ้ายขวานิดหน่อย สิ่งที่สัมผัสได้จากรถคันนี้ นอกจากพวงมาลัยเพาเวอร์ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยให้การควบคุมได้ง่ายขึ้นนั้น ในส่วนของอัตราเร่ง เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ถือว่าทำงานเข้าขากันได้ดี อาจมีจังหวะแรงฮึดก่อนเพิ่มความเร็ว แต่ก็ถือว่าไม่กระโชกจนเกินไป คันใหญ่แต่ขับคล่องตัว นิ่มนวล เพิ่มอรรถรสความเร้าใจให้ขับสนุกมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ
จุดแรกที่เราแวะ ก่อนจะไป จ.นครนายก เราแวะร้านกาแฟน่ารักๆ ในคลอง 15 “ร้านกาแฟกับต้นไม้….” ที่มี ตัวร้านสร้างจากไม้เป็นส่วนใหญ่ ตกแต่งด้วยของเก่าย้อนยุคสไตล์วินเทจ มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศความร่มรื่นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ร้านกาแฟริมทางในซอยที่มีแต่สวนดอกไม้ ที่นี่เมื่อใครมาเยือนเป็นมาต้องมาเขียนฝากรักแปะเป็นกระดาษโน๊ต เขียนเป็นที่ระลึกว่าครั้งนึงฉันเคยมาที่นี่ และมันก็ยังเป็นแลนด์มา์รคที่เป็นจุดเด่น ให้ใครที่จะมาแวะพัก ดื่มกาแฟ ให้สังเกตุๆ ได้ง่ายๆ “ปีหน้าฉันจะกลับมา” ==! ถ้ากระดาษหมึกไม่จางไปเสียก่อน ก็คงได้มาหวนอดีตกันอีกครั้ง สั่งชา กาแฟ และขนมปังหน้าต่างๆ รองท้องน้อยๆ นั่งรับลมเอื่อยๆ นั่งเล่นครุ่นคิดไปสักพัก ก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ
หากอยากจะพักผ่อนที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน และมีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้วล่ะก็ จ.นครนายก จะเป็นตัวเลือกระดับต้นๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิเช่น เขื่อนขุนด่านปราการชล อุทยานพระพิฆเนศ น้ำตกสาริกา หรือจะอ่างเก็บน้ำท่ามกลางขุนเขารายล้อม จุดแรกที่เราแวะละใก้ลจากทางมากรุงเทพ และก็ถูกใจอิหมวยสุดๆ ก็คงจะเป็น “น้ำตกคลองมะเดื่อ” น้ำตกที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ และการเดินยังแอดเวนเจอร์สุดๆ เพราะทางเข้าน้ำตกยังเป็นถนนดินแดง ที่ไม่ลาดยาง มีหลุม มีโคลน ให้ขับแบบลุยๆ หมุนฟังก์ชั่นเปลี่ยนเป็นโหมดขับ 4 ที่อยู่ตรงคอนโซลกลาง ขับลุยกันไปเรื่อยๆ มีสวนผลไม้ของผู้ให้บริการ และเป็นจุดแวะพักโดยคลองมะเดื่อประกอบด้วยกันทั้งหมด 5 คลอง
แต่สถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวพักและกางเต็นท์ มีด้วยกันทั้งหมด 3 คลอง (ในส่วนของคลองที่ 4 และ 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การเดินทางอย่างที่เกริ่นไว้ว่าต้องสมบุกสมบันซักหน่อย อาจจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือโฟร์วีล แต่ถ้าหากเข้าไปไม่ลึกมาก และทางไม่เป็นอุปสรรคจากน้ำ หรือฝนตกหนักๆ รถเก๋งก็ขับลุยไปได้สบายๆ แต่คงต้องระมัดระวังพอสมควรเพราะถนนแคบแค่พอรถสองคันสวนกันไปมา และดินโคลนที่ยังแฉะอยู่ในบางจุด อาจจะทำให้ล้อติดหล่มได้ง่าย ที่นี่จะบริการบ้านพักและลานกางเต้นท์ ตามคลองต่างๆ อาจจะต้องโทรศัพท์จองที่พักกันล่วงหน้า แต่ก็คงคุ้มค่าสำหรับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ใครขาลุยหรือรถยนต์ขับสี่ แบบโฟร์วีลก็อาจจะลุยลึกเช้าไปอีก ต้องผ่านด่านธารน้ำ ที่อาจต้องใช้ทักษะความชำนาญพอสมควร ซึ่งพี่เข้มอเมริกันของเราก็สามารถลุยน้ำไปได้อย่างสบายๆ เพราะสามารถลุยน้ำได้ถึง 84 เซนติเมตร ใครหมดแรงหรือพาหนะไม่เอื้อยอำนวยก็แวะรับประทานอาหาร เล่นน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติ กันด่านแรกๆ ก็ฟินและชุ่มฉ่ำได้เช่นกัน เอาใจคนรักธรรมชาติแบบเต็ม ๆ และรถที่เราใช้ยังสร้างความมั่นใจให้เราไปได้สุดๆ แบบนี้ไม่มีที่ไหน ที่ไปไม่ถึงค่ะ
ขับรถใช้เวลาใก้ลชิดชมธรรมชาติกันก็ครึ่งค่อนวัน สถานที่สุดท้ายที่เราจะไม่แวะไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่ เขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” เป็นเขื่อนคอนกรีต ที่ยาวที่สุดในโลก ประมาณ 2,594 เมตร และใช้เวลาสร้างถึง 13 ปี…. เป็น จุดที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาแวะพักผ่อนกันไม่ขาดสาย และจะต้องขึ้นมาเก็บรูปภาพบรรยากาศ เซลฟี่อวดเพื่อนๆในเฟสบุ๊ก ถึงความกว้างใหญ่ หรือใครอยากจะชมความยิ่งใหญ่ รอบๆ เขื่อนก็อาจจะปั่นจักรยาน หรือจะใช้บริการ รถราง พร้อมรับฟังคำบรรยาย เกี่ยวกับประวัติที่มาที่ไปของที่นี่ ก็ได้ความสนุกสนานกันไปอีกแบบ ความกว้างใหญ่บวกภูเขารายล้อม ยืนกางแขนโชว์ความโรแมนติกเป็นแจ็คกับโรส หลับตาแล้วให้สายลมเอื่อยๆ มากระทบใบหน้า ขอยืนอยู่อีกสักแป๊บ ให้ผ่อนคลาย คลายความเมื่อยล้าสักหน่อย อืมสูดอากาศโอโซนเข้าไปกันให้ชุ่มปอด อืม….สดชื่นค่าาาา
หากใครอยากจะพักผ่อนกันใก้ลๆกรุงเทพแบบไปเช้าเย็นกลับเช่นเดียวกับอิหมาย ที่พาเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่ มาขับกันแบบลุยๆ สถานที่ใก้ลๆ เช่นที่นี่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพักผ่อน ยังมีอีกหลายแห่งที่สวย และยังคงความเป็นธรรมชาติ ลองเสิร์ชสำรวจเส้นทางกับอากู๋กันก่อน “เอ้ย! อิหมวย อากู๋ไหนว้า” ก็อากู๋ กูเกิล ไงจ้า อิอิ! ก่อนเดินทางเพื่อให้ไปถึงจุดหมายได้ปลอดภัยและไม่หลง สำหรับทริปไปเช้าเย็นกลับรับกลิ่นอายธรรมชิตของอิหมวย ใก้ลๆกรุงก็จบทริปไปอย่างง่ายๆ และยังได้ทดลองขับรถที่ปลอดภัยทั้งคนขับก็สบายใจ กับคนที่เราห่วงใย ก็หายห่วง เช่นนี้ ได้ลองสัมผัสรถที่ให้ความสะดวกสบายก็ต้องหลงรักทุกรายแน่นอนค่ะ…เชื่ออิหมวยซิ !