เครื่องดื่มเนสท์เล่ ไมโล และอาหารเช้าเนสท์เล่ ไมโล ซีเรียล โฮลเกรน ผนึกความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระเบิดศึกฟาดแข้งรอบชิงชนะเลิศของรายการ “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” ฟุตซอลทัวร์นาเมนท์สำหรับเด็กและเยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยภายใต้ความร่วมมือระดับโลกของเนสท์เล่ ไมโล และสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า เป็นระยะเวลา 4 ปีนั้น ทำให้การแข่งขันในปีนี้อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อต่อยอดโครงการให้เข้าถึงเยาวชนทั่วประเทศ ให้ความรู้แก่เด็กๆ เกี่ยวกับความสำคัญของกีฬาและการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ทั้งนี้ ได้มีการคัดเลือกนักกีฬาฟุตซอลรุ่นเยาว์ 40 คนที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศ ตลอดจนโชว์ฟอร์มการเล่นที่ดีเยี่ยมและมีหัวใจนักกีฬาให้เข้าร่วมกิจกรรม “ไมโล แคมป์ Road to Barcelona” ซึ่งดูแลการฝึกสอนโดยสตาฟฟ์โค้ชจากสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าและโค้ชชั้นนำของไทยที่ชลบุรี บลูเวฟ อารีน่า ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคมถึง 3 กันยายน 2560 ซึ่งในแคมป์ดังกล่าวจะมีการคัดเลือก 4 สุดยอดนักเตะรุ่นจิ๋วอายุ 7-12 ปี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปฝึกทักษะลูกหนังที่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าในวันที่ 16-17 ตุลาคม 2560 อีกด้วย
งานนี้ได้รับเกียรติจาก นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเนสท์เล่ ภูมิภาคอินโดไชน่า เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” รอบชิงชนะเลิศ โดยมี นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด นายอนุพงศ์ รณกรกิจอนันต์ ผู้จัดการการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไมโล บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด พร้อมด้วย นางสาววัลลา เรือนไชยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และนายวินิตย์ จันทร์มนตรี ผู้อำนวยการสำนักการกีฬา กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นสักขีพยาน
นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเนสท์เล่ ภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า “การจัดการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล” อย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปี สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ (Nestlé Purpose) ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) เรามุ่งส่งเสริมด้านโภชนาการที่เหมาะสมโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ อาทิ เครื่องดื่มเนสท์เล่ ไมโล และอาหารเช้าเนสท์เล่ ไมโล ซีเรียล โฮลเกรน ให้กับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ เรามีความยินดีที่การจัด “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” ในปีนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนที่มีใจรักกีฬากว่า 700 ทีมหรือ 10,560 คนจากทั่วประเทศ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลรายการนี้ ซึ่งตลอด 7 ปีมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันไมโล ฟุตซอลแล้วถึง 73,920 คน”
นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เนสท์เล่ ไมโล มีความเชื่อที่ตรงกันกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าว่า กีฬาเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ เราจึงสนับสนุนการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความรู้ด้านโภชนาการที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้หันมาเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพที่ดี เพราะกีฬาคือครูที่ดีที่สุดที่จะช่วยหล่อหลอมกล่อมเกลาเด็กและเยาวชนไทยให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน การพัฒนาทักษะและความสามารถรอบด้าน ตลอดจนการมีสปิริตของนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เรามั่นใจว่า การจัดการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” ในปีนี้จะช่วยพัฒนานักเตะรุ่นเยาว์ของไทยให้เติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพดี เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทยในอนาคตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ผมขอชื่นชมน้องๆ นักกีฬาทุกคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” และได้พิสูจน์ตัวเองให้เราเห็นแล้วว่า นักกีฬาทุกคนได้เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาขีดความสามารถตัวเอง ตลอดจนแสดงสปิริตนักกีฬาและการสร้างทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง จนสามารถฝ่าฟันมาจนถึงรอบสุดท้ายได้อย่างงดงาม”
นายเดวิด คาร์เตอร์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจ หน่วยธุรกิจอาหารเช้าซีเรียลภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของนักกีฬาทุกคนในวันนี้ สะท้อนถึงความอุตสาหะในการพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาพร้อมด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้พลังงานที่เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องใช้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เด็กๆ มีความพร้อมที่จะทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ผมมั่นใจว่า ความสำเร็จที่นักกีฬาทุกคนได้รับในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะกีฬาคือครูที่ยิ่งใหญ่ ที่ให้ความรู้และประสบการณ์ของการเล่นกีฬาเป็นทีม ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนต่อไปในอนาคต”
Comments
comments
