BMW 530i M Sport สุนทรียะแห่งการขับสนุกและนั่งสบาย
จากยอดการส่งมอบรถบีเอ็มดับเบิลยูที่สูงถึง 2,097 คัน ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 26 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะรีบขยับขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ท้องตลาดเมื่อมีโอกาส คำนวนแล้วปีนี้ไม่น่าจะพลาดจำนวนกว่า 10 รุ่น ไม่น้อยหน้าแบรนด์คู่แข่งจากประเทศเยอรมันเชื้อชาติเดียวกัน และบีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport คือหนึ่งในตัวเด่นนั้น
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport ย้ำถึงความเป็นพาหนะแห่งนวัติกรรมอันแท้จริง ภายใต้การออกแบบในแนวคิด BMW EfficientLightWeight เน้นการใช้วัสดุอลูมีเนียมและเหล็กกล้าที่มีความทนทานสูง แต่กลับมีน้ำหนักเบา และทำให้พิกัดตัวของยานยนต์รุ่นนี้เบากว่ารุ่นที่แล้วถึง 100 กิโ่ลกรัมเลยทีเดียว ก่อนจะออกแบบรูปโฉมภายนอกให้มีเอกลักษณ์และแรงเสียดทานอากาศตำ่สุดในรถประเภทเดียวกัน
เมื่อสมทบด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics พร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ Double-Spoke ขณะที่ภายในโดดเด่นด้วยพวงมาลัยหนังในแบบ M ส่วนหลังคากระจกนั้นเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมส่วนเพดานห้องโดยสารที่มาพร้อมวัสดุเก็บเสียงในตัว ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารอย่างดีเยี่ยม่ รวมถึงฝากระโปรงหลังที่มาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายในการขนของเข้าและย้ายออก ส่งผลให้ 530i M Sport เป็นคำตอบที่น่าจับตา
สำหรับขุมพลังนั้น ยนตกรรมคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 129 กรัมต่อกิโลเมตร ลดลงจากรุ่นก่อนถึง 11 เปอร์เซ็นต์ สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ยิ่งไปกว่านั้น 530i M Sport ยังมาพร้อมระบบช่วยนำรถเข้าจอด (Parking Assistance) ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในรูปแบบแนวขนานหรือการจอดแบบเข้าซอง สามารถเข้าจอดเองได้ในพื้นที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ด้วยระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (Ultrasonic Sensors) ช่วยค้นหาที่จอดได้ในขณะขับขี่ที่ความไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นระบบจะจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกให้อัตโนมัติ
ยังมีความพิเศษอันน่าทึ่งอีกหลายอย่างในรถคันนี้ โดยเฉพาะระบบ Gesture Control อันเป็นฟีเจอร์ควบคุมฟังก์ชันหลัก ด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวมือหรือนิ้วมือ ซึ่งจะถูกตรวจจับโดยเซ็นเซอร์ 3D บริเวณคอนโซล และแปลเป็นคำสั่งต่างๆ ตามการเคลื่อนไหว เช่น รับโทรศัพท์ได้ด้วยการชี้นิ้วชี้ไปที่หน้าจอ ตลอดจนสามารถปัดมือเพื่อปฎิเสธสายเรียกเข้า ส่งผลให้ยานยนต์คันนี้เป็นพาหนะแห่งอนาคตที่คุณสามารถสัมผัสและเป็นเจ้าของได้จริงในวันนี้