นิสสัน โน๊ต อัจฉริยะการขับขี่แห่งอนาคต
เรื่อง: sirote petchjamroensuk
ในแวดวงรถยนต์อีโค คาร์บ้านเรา ถือว่า นิสสัน โน๊ตเป็นโมเดลล่าสุดในท้องตลาด โดยยกระดับตัวเองขึ้นจากรุ่นพี่อย่างนิสสัน มาร์ช และอัลเมร่า แม้จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน เกียร์ลูกเดียวกัน แถมมีชิ้นส่วนภายในหลายอย่างร่วมกัน แต่รูปโฉมกลับกระชากตัวเองออกไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่เตะตาคนทั่วไปในปัจจุบัน แต่นิสสัน โน๊ตโฉมนี้จะสวยทนนานครองใจไม่ต่ำกว่าสิบปีแน่ๆ
บีนิวส์ ออนไลน์ ได้รับคำเชื้อเชิญจาก นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) สำหรับการทดสอบความเป็นอัจฉริยะของรถยนต์อีโค คาร์คันนี้ถึงจังหวัดเชียงราย แม้จะไม่ได้วางเส้นทางตรากตรำแบบขึ้นเขาลงห้วย หรือคดเคี้ยวไปตามเทือกเขาเพื่อลองเพอร์ฟอร์แมนซ์หนักๆ ด้วยการวิ่งในเมืองที่มีสภาพการจราจรพลุกพล่านจริง ก่อนจะออกสู่ทางหลวงระหว่างอำเภอ ให้ตระหนักว่า รถอีโค คาร์คันนี้ก็สามารถไปได้ และทำความเร็วได้
รูปร่างที่ปราดเปรียวตามลักษณะรถสมัยใหม่ ถูกใส่ความเป็นนิสสันด้วยกระจังหน้าทรงวีหรือ V-Motion ก่อนประกบเข้ากับไฟคู่หน้าที่รองรับกันอย่างเหมาะเจาะ ก่อนเส้นสายของปลายหางโคมไฟโปรเจ็คเตอร์จะลากผ่านส่วนแก้มหน้า ประตูหน้าและหลังด้านข้าง ไปจรดลงกับไฟท้ายรูปทรงบูมเมอแรง เมื่อบวกเข้ากับกันชนหน้าแบบสปอร์ต ที่ตกแต่งแบบโครเมี่ยม รวมถึงล้ออัลลอยลายเฉพาะ ทำให้กลายเป็นผลลัพธ์อันยากปฏิเสธ
เมื่อทิ้งตัวลงนั่งหลังพวงมาลัย ความแตกต่างที่สัมผัสได้ทันทีคือ การตกแต่งแบบสปอร์ตทั้งพวงมาลัยแบบสามก้านมัลติฟังก์ชัน คอนโซลล้อมรอบตัวแบบทูโทนที่ดูขรึมและเร้าใจ ช่องเก็บของสารพัดตำแหน่งให้จัดสรรพื้นที่ได้อย่างสะดวก ที่สำคัญคือ ระยะห่างระหว่างเบาะหน้าและเบาะหลัง รวมถึงช่องว่างเหนือศีรษะของผู้โดยสารตอนหลังนั้น มีมากและเหลือเฟือจนไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับอกคับใจใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับขุมพลัง 1,198 ซีซี เครื่องยนต์ HR12DE อันเลื่องชื่อด้านความประหยัดน้ำมันและให้กำลังเต็มสมรรถนะ 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อมด้วยระบบ D-Step Logic ให้การเปลี่ยนเกียร์อันนุ่มนวลกว่าจริง การขับขี่ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นไปอย่างใจ ไม่มีคำว่า อืด หรือ ตื้อออกมาให้เห็น
แต่ถ้าจะตะบี้ตะบันทำความเร็วเกินกว่านั้น คงต้องลุ้นและเหนื่อยไปกับเครื่องยนต์อีโค คาร์ลักษณะนี้ นอกจากทำความเข้าใจกับบุคลิกของมันให้ถ่องแท้ และใช้วิธีขับขี่แบบไหลลื่น รอแรงส่ง แล้วค่อยไล้คันเร่งสมทบ คุณจะได้สัมผัสถึงผลลัพธ์ความเร็วอันคาดไม่ถึง ระบบช่วงล่างที่เซ็ตมาแบบนุ่มหนึบจากโรงงาน รวมถึงการบังคับควบคุมทิศทางจากพวงมาลัย จะทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกและคล่องตัวสุดๆ
ที่สำคัญและไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือ ระบบอัจฉริยะที่ติดตั้งในรถระดับหรูซึ่งถูกถ่ายทอดลงสู่นิสสัน โน๊ต ทั้งระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง โดยแสดงผลเป็นจอภาพบนด้านซ้ายของกระจกมองหลัง ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน และระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง โดยทั้ง 4 ระบบสามารถใช้งานได้จริง แม้ตอนเริ่มต้นอาจจะไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แต่ใช้ไปสักพักจะรู้จังหวะและใช้งานได้อย่างคล่องตัว
ถึงจุดนี้คงมีคำถามเกิดขึ้นกับหลายๆ คนว่า ระบบอัจฉริยะอันมากมายดังกล่าวนี้ มันสิ้นเปลืองหรือจำเป็นสำหรับพาหนะระดับอีโค คาร์กันแน่? ถ้าตัดออกไปและไปเลือกเป็นเจ้าของในรุ่นต่ำกว่า จะประหยัดงบประมาณในกระเป๋าไปพอสมควรใช่หรือไม่? คงไม่มีใครให้คำตอบได้ดีเท่ากับตัวคุณเองซึ่งเป็นผู้ใช้งานแน่ๆ แต่เชื่อเถอะว่า ทุกระบบจะอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยในอนาคต แล้วคุณไม่คิดจะใช้เพื่อความปลอดภัยในวันนี้เลยเหรอ?