ทาทา ทุ่มเงินขยายกำลังผลิต หวังขึ้นแท่นอันดับ 1 รถเพื่อการพาณิชย์
ทาทา มอเตอร์ส พร้อม มองเห็นศักยภาพการเติบโต ทุ่มเงิน ขยายกำลังการผลิต เตรียมขยายตลาดส่งออก ซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “benewsonline.com” ว่า ทาทา มอเตอร์ส เป็นบริษัทหนึ่งในเครือ บริษัท ทาทา กรุ๊ป ที่ก่อตั้งมากกว่า 100 ปี
ทาทา มอเตอร์ส กรุ๊ป ฯ ก่อตั้งขึ้นในปีพศ. 2497 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือมากกว่า 100 บริษัท มีรายได้มากกว่า หนึ่งแสนล้านเหรียญ ส่วนทาทา มอเตอร์ส กรุ๊ป มีรายได้ 3.5 ล้านล้านบาท ถือเป็นรายได้ให้แก่กลุ่มมากกว่า 40%
โดย ทาทา มอเตอร์ส กรุ๊ป ฯ เริ่มต้นผลิตรถบรรทุก ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทฯ ที่ผลิตรถบรรทุกสำหรับใช้งานในทุกประเภท และได้เข้าซื้อกิจการของรถยนต์และถือตราสินค้าอยู่หลายแบรนด์ คือ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แดวู ทรัค และรถบัส อัสปาโน มาโดโปเสด รวมถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยร่วมกับ คัมมินท์ ของอเมริกา และร่วมกับ ฮิตาชิ ผลิตรถที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น รถขุด รถตัก “ประเทศไทยเข้ามาลงทุนในปี 2550 ใช้เงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ที่เป็นการลงทุนแบบต่อเนื่อง ทั้งเครื่องจักร ไลน์การผลิต สำนักงาน ศูนย์เทคนิค ซึ่งไม่รวมกับการวิจัยและการออกแบบ โดยใช้โรงงานของ ธนบุรีประกอบรถยนต์ในการผลิต มุ่งเน้นธุรกิจรถเพื่อการพาณิชย์ “ปัจจุบันทาทา ได้ย้ายการผลิตจากโรงงานเดิมไปยัง บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยลงทุนเพิ่มอีก 500 ล้านบาท เป็นการย้ายเครื่องจักรไปติดตั้งที่โรงงานแห่งใหม่ พร้อมปรับปรุง ยกระดับคุณภาพ และความสามารถในการประกอบรถยนต์ โรงงานแห่งใหม่จะผลิต ทาทา ซีนอน รุ่นใหม่ ที่จะใช้แชสซีส์ แบบ ไฮโดรฟอร์ม เกียร์อัตโนมัติ และพวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น และยังมีการประกอบรถ ทาทา ซุเปอร์เอช มินต์ รถบรรทุกขนาดเล็กในประเทศไทย ซึ่งเดิมนำเข้ามาจากประเทศอินเดีย ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่ารถทั้ง 2 รุ่น จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งเรื่องคุณภาพ การใช้งาน และราคาที่คุ้มค่า ” โรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิตเต็มที่ 10,000-20,000 คัน แต่ในช่วงแรกการผลิตจะเป็นไปตามความต้องการของตลาด โดยยึดคุณภาพ มาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับตลาด ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะสามารถประกอบรถได้หลากรุ่น รวมถึงการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งมั่นใจประเทศไทยเป็นศูนย์การส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียและยังจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ
ซานเจย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2560 จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7 % มียอดขายรวมประมาณ 8 แสนคัน หากมองต่อไปในปี 2561-2562 ตลาดก็จะเติบโตขึ้นเล็กน้อย คาดว่าคงไม่เกิน 5-7% โดยการเติบโตต่อจากนี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่หวือหวาเหมือนกับในปี 2556-2557 ที่มียอดขายเกิน 1 ล้านคัน นั่นเป็นเพราะการผลัดดันของรัฐบาลจากนโยบายรถคันแรก จนมาถึงปี 2557-2558 ตลาดเริ่มหดตัว ในปี 2559 ตลาดโดยรวมยอดขายไม่ถึง 8 แสนคัน ทาทา ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยยังคงมุ่งเน้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท หลังจากนี้จะแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก 10 ล้อ ไปจนถึง 12 ล้อ ขนาดตั้งแต่ 1-50 ตัน ซึ่งถือว่ามีรถครบทุกรุ่น ตั้งแต่ เล็ก กลาง และใหญ่ และยังเตรียมที่จะขยายการให้บริการเพื่อให้ครอบคลุมกับปริมาณรถที่จำหน่ายออกไป โดยจะขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 50 แห่ง เป็น 70 แห่ง ทั่วประเทศ
“ความสำเร็จของทาทา เกิดขึ้นจากทีมงาน และการยอมรับในตัวสินค้าที่มีลูกค้าเก่ามาซื้อต่อเนื่อง ลูกค้ากล้าที่จะลงทุน เพราะทาทา ได้ทำให้ลูกค้าเห็นว่า ทาทา เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานหนัก บรรทุกสิ่งของ ในวันนี้ ทาทา จึงยังไม่เน้นที่ยอดขาย แต่ต้องการให้ลูกค้ายอมรับในตัวแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการเพิ่มจำนวนยอดขายก็จะตามมา”
วันนี้ ทาทา จึงต้องการตอกย้ำการนำเสนอสินค้าใหม่ เน้นที่ความแข็งแรง ทนทาน และยังลูกค้ารู้จักและจดจำแบรนด์ ทาทา ให้เป็นรถที่มีดีไซต์เพื่อธุรกิจและการใช้งานที่ตรงตามเป้าหมาย มีความอเนกประสงค์ และใช้งานส่วนบุคคลมากขึ้น พร้อมการบริการหลังการขาย และขยายตัวสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงและมั่นใจ เลือกใช้ทาทา ในการประกอบในธุรกิจ