กิน เที่ยว “ฝั่งธน” กับรถยนต์ “ฮุนได” 1 วัน กับแหล่งวัฒนธรรมที่ซ่อนในกรุง
เวปไซต์ Benewsonline ได้รับเชิญจาก บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ให้มาร่วมกิจกรรมดีๆ พร้อมเชิญสื่อมวลชนทดลองขับรถยนต์ ฮุนได รุ่นเอช-วัน และรุ่นแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ในแบบครอบครัวฮุนได ที่นอกเหนือจากเป็นรถยนต์ประเภทอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขับง่าย สะดวกทุกเส้นทางแล้ว การเดินทางที่สามารถบรรทุกคนได้ทั้งครอบครัวคือคำตอบของรถยนต์ที่ลงตัวกับการใช้ชีวิตแบบอบอุ่น
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ฮุนได ได้ออกแบบเส้นทางในการเดินทางในเมือง รูปแบบการใช้เวลาวันหยุดร่วมกันในหมู่เพื่อน หรือครอบครัว เพื่อชมและร่วมศึกษาแหล่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยสัมผัส ที่เราเรียกกันว่า Hidden Treasure
เริ่มต้นกันแบบอบอุ่นด้วยอาหารเช้าในบรรยากาศคลาสสิค ที่ร้าน “ออน ล๊อก หยุ่น” ย่านถนนเจริญกรุง เป็นร้านห้องแถว 2 ชั้น แบบดั้งเดิม ที่เปิดขายมานานกว่า 80ปี ตกแต่งแบบย้อนยุค ได้กลิ่นอายแบบบ้านชาวจีนรุ่นเก่า กับเมนูอาหารเช้าง่ายๆ ไส้กรอก แฮม เบคอน ไข่ดาว ไข่ลวก และขนมปังต่างๆ เสริฟพร้อมชาจีนร้อน หรือใครที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเย็น ก็มีชาเย็น กาแฟเย็นโบราณ โอเลี้ยง ให้เลือกสั่งได้ตามชอบ โดยเฉพาะความนุ่มของขนมปังที่นี่ และกาแฟที่นำเมล็ดมาคั่วบดเอง เพิ่มความหอมของรสชาติกาแฟได้อย่างดี
จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ตามรอยศิลปะวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า จุดแรกคือชุมชน “กุฎี จีน” เป็นชุมชนเก่าแก่ย่านธนบุรี ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 200 ปี สะท้อนเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่าง 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ จีนและอิสลาม และ 4 ความเชื่อในวัดพุทธ โบสถ์ มัสยิด และศาลเจ้า ที่แม้จะมีความแตกต่างกันแต่ก็อยู่ร่วมกันในชุมชนเดียวได้ ภายในชุมชนกฏีจีน มีสถานที่อิงประวัติศาสต์ให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าที่ยังคงสภาพเดิมๆ พิพิธภัณฑ์ วัด โบสถ์ ศาลเจ้า มัสยิด รวมไปถึงอาชีพที่เป็นมรดกตกทอดมาจากอดีตคือการทำขนมฝรั่งกุฎีจีนที่เลื่องชื่อ นับเป็นชุมชนริมน้ำที่ทำให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยที่ต่างเชื้อสายได้เป็นอย่างดี
จากนั้นออกเดินทางเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ “เดอะ ระวีกัลยา” ย่านกรุงเกษม ที่แห่งนี้คือโรงแรมที่นำเอาเรือนพักอาศัยพระนมทัต พระนมของรัชกาลที่ 6 มาประยุกต์เป็นโรงแรมลักษณะรีสอร์ทในกรุง โดยตัวเรือนเดิมสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2400 และยังคงสภาพดั้งเดิมอยู่บ้าง โดยเฉพาะบริเวณรอบด้านที่มีต้นไม้เก่า เช่น ต้นไทร ที่มีอายุร่วม 120 ปี ในวันนี้สื่อมวลชนจะได้ทานอาหารกลางวันในส่วนของห้องอาหารที่ใช้โครงสร้างอาคารเดิม แต่ปรับปรุงและให้บริการอาหารไทยชาววังรสชาติดั้งเดิมที่หาทานได้ยาก และอาหารสไตล์ฟิวชั่นร่วมสมัย
เราทดลองขับรถยนต์อเนกประสงค์ทั้ง 2 รุ่น ในเส้นทางทั้งสิ้นเพียง 16 กิโลเมตร ทุกท่านสามารถสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ขับง่ายโดยเฉพาะในเมืองเพราะวงเลี้ยวแคบเพียง 5.6 เมตร โดยเฉพาะเวลาจอดในที่แคบๆ ในเมืองครั้งนี้ ผู้ขับสามารถใช้กล้อง Smart View System ที่แสดงภาพ ในมุมมองแบบ 360 องศา ส่วนผู้โดยสารในรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้สามารถพูดคุยในห้องโดยสารที่กว้าง ทั้งในแบบ 7 ที่นั่งในแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ หรือ 11 ที่นั่งในเอช วัน ที่สำคัญหากเจอสภาพการจราจรที่ไม่เอื้ออำนวย ผู้โดยสารยังสามารถพบความบันเทิงได้จากอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบรับความบันเทิงได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ LCD ติดเพดานขนาด 13.3 นิ้ว มาพร้อมระบบพับไฟฟ้า เชื่อมต่อกับเครื่องเล่น DVD จากด้านหน้า (ในรุ่น แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ พรีเมียมและ เอช–วัน เดอลุกซ์) จอภาพ LCD ขนาด 22 นิ้ว แบบ Full HD สามารถปรับ ขึ้น–ลง ด้วยระบบไฟฟ้าที่เคาน์เตอร์ (เฉพาะรุ่น แกนด์ สตาร์เร็กซ์ วีไอพี) และเมื่อถึงที่หมาย ผู้โดยสารด้านหลังสามารถขึ้น-ลงจากรถทั้งสองฝั่งได้อย่างง่ายดาย ด้วยประตูบานเลื่อนแบบไฟฟ้าที่ควบคุมได้ทั้งจากที่นั่งคนขับหรือจากรีโมท คอนโทรล
ก่อนสายฝนจะโปรยปราย เราแวะชมความงามในสมัยอดีตที่รุ่นเราอาจจะหาชมกันได้ยาก แต่ทุกอย่างก็ถูกยก และจำลองไว้ใน “นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” ซึ่งภายในอาคาร จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับรัตนโกสินทร์ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทั้งสื่อจัดแสดง หุ่นจำลอง การนำสื่อผสมเสมือนจริง ๔ มิติ สื่อมัลติทัช มัลติมีเดียแอนิเมชัน ในลักษณะอินเตอร์เอคทีฟ เซล์ฟ เลิร์นนิ่ง (Interactive Self-learning) โดยแบ่งการจัดแสดงนิทรรศการออกเป็น ๙ ห้องจัดแสดง ผู้ชมสามารถเลือกชมได้ทั้ง ๒ เส้นทาง หรือ เลือกชมเพียงเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งได้ตามความต้องการ โดยขึ้นอยู่กับรอบเวลาที่ว่างอยู่ (โปรดตรวจสอบรอบเข้าชม ได้ที่จุดจำหน่ายบัตรอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์)
**หากต้องการเข้าชม ๑ เส้นทาง จะใช้เวลา ในการรับชม ๒ ชั่วโมง
**หากต้องการเข้าชมทั้ง ๒ เส้นทาง จะใช้เวลาในการรับชม ๔ ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ ราคา ๑๐๐ บาท (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ)
- เข้าชมฟรี สำหรับ
- เด็ก (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ความสูงไม่เกิน ๑๒๐ เซนติเมตร)
- นักเรียน/นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี และกำลังศึกษาอยู่ในประเทศไทย) ในเครื่องแบบหรือแสดงบัตรนักเรียน/นักศึกษา
- ผู้สูงอายุ (ชาวไทยที่มีอายุมากกว่า ๖๐ ปีขึ้นไป) แสดงบัตรประชาชน
- ภิกษุ สามเณร และ ผู้พิการ
นอกจากนิทรรศการแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับนิทรรศการหมุนเวียน (Event Hall) ที่บริเวณโถงชั้น ๑ พื้นที่ประมาณ ๓๐๐ ตรม. เพื่อสำหรับให้บริการแก่สถาบันการศึกษาและองค์กรเอกชน ในการใช้จัดกิจกรรม หรือนิทรรศการทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนบริการห้องสมุด ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก อาหารเครื่องดื่มมากมาย (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.nitasrattanakosin.com)
เราปิดการเดินทางครั้งนี้ด้วยการให้สื่อมวลชนทุกท่านทดลองเป็นผู้โดยสาร เพื่อสัมผัสความสะดวกสบายจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกดังกล่าว การเดินทางหนึ่งวันในกรุงเทพครั้งนี้ เป็นการมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เพียงให้สัมผัสถึงอรรถประโยชน์ของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดแหล่งคลังความรู้ที่เราอาจจะลืมเลือนหรือไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความสนุก และความประทับใจแม้จะเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียงวันเดียว แต่มิตรภาพ ไมตรีที่มีให้กันยังคงยาวนาน และตลอดไป…ติดตามทริปอื่นๆ ได้ใน Benewsonline