ปลื้มจนยิ้มแก้มปริกันทั้ง 6 นวัตกรน้อยจากประเทศไทย น้องมีมี่ น้องคิดิน น้องล๊อตโต น้องชาช่า น้องโดนัท และน้องอู่อู๋ ผู้ชนะในโครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2016” ภายใต้แนวคิด คิด(ส์) กระหึ่มโลก โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่กลับจากการเหินฟ้าไปหาไอเดียดีๆ จากค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์”
ร่วมกับ 6 ตัวแทน นวัตกรน้อยจากประเทศญี่ปุ่น ณ อาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมวิวัฒนาการ นวัตกรรรมที่สำคัญต่าง ๆ ของฮอนด้า ได้สำรวจธรรมชาติและบ้านนกหลากหลายดีไซน์แปลกตาภายในป่าเฮลโล วูดส์แล้ว ยังได้กระทบไหล่กับ “อาซิโม” หุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ที่สุด ขวัญใจของเด็กๆ ทั่วโลกอีกด้วย
ก่อนที่จะไปดูว่าภายในอาณาจักรฮอนด้า ที่สร้างสรรค์รถยนต์ดีๆ ให้กับทุกคนทั่วโลกเป็นยังไง เรามาทำความรู้จักกับผลงานของน้อง ๆ ตัวแทนจากประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นที่ได้ไปร่วมเข้าค่ายในครั้งนี้กัน
น้องมีมี่ หรือ ด.ญ. ศุภสุตา สามัตถิยดีกุล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม เจ้าของรางวัลชนะเลิศ โล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่นำไอเดียสิ่งประดิษฐ์ “ปืนลงทะเบียนต้นไม้” มาแบ่งปันให้เพื่อนใหม่ชาวญี่ปุ่น พร้อมบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า
โดยวิธีการทำงานของปืนนี้จะใช้กระสุนฝังชิพเพื่อยิงเข้าไปในต้นไม้ในเขตอนุรักษ์ โดยจะใช้กระสุน 2 นัด นัดแรกเพื่อตรวจสอบอายุ ความสมบูรณ์ ส่วนอีกนัดหนึ่งเพื่อฝังรหัสต้นไม้ เก็บไว้เป็นข้อมูลสถิติที่กรมป่าไม้ อีกทั้งยังตรวจสอบด้วยว่าต้นไม้ต้นนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนหรือไม่ เพื่อตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
“วันนี้ดีใจมากค่ะที่ได้มาเจอกับเพื่อนใหม่ แล้วก็ได้มาทำกิจกรรมหลายๆ อย่างด้วยกัน ที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเด็กๆ มาก มีที่ให้เด็กได้ลองเรียนขับขี่ ใช้ถนนอย่างปลอดภัยด้วยค่ะ การเรียนขับรถตั้งแต่เด็กก็เหมือนการเรียนมารยาท แล้วพอเด็กโตไปก็จะกลายเป็นคนที่มีมารยาทค่ะ ขอขอบคุณฮอนด้ามากๆ ที่พามาเปิดประสบการณ์ที่นี่ค่ะ ที่ชอบสุดๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ อาซิโม ฉลาดและเก่งมากๆ เลยค่ะ”
ด้านเยาวชนญี่ปุ่นผู้ชนะเลิศจากโครงการฯ ด.ญ. รินโกะ โคดามะ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการคิดผลงาน “แฮรี่ เม่นจิ๋ว ไม่กลัวหรอก!” ว่าตัวเองเป็นคนขี้กลัว ทั้งความมืด และเสียงดัง เวลามีฟ้าร้อง แผ่นดินไหว หรือแม้กระทั่งเวลาต้องไปห้องน้ำคนเดียวก็จะกลัว จึงคิดประดิษฐ์เม่นน้อยชื่อแฮรี่ ที่จะคอยเป็นเพื่อนเวลาที่เราเกิดความกลัว จมูกของเม่นจะส่องแสง และเมื่อมันจับความกลัวของเราได้ หนามของเม่นจิ๋วจะแตกตัวออกกลายเป็นดวงดาวเพื่อให้แสงสว่างและปลอบใจเรา”
มร.มิสึอากิ มิยาซากิ ผู้จัดการ สำนักกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ค่ายเยาวชนฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คิดส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพี่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในเรื่องจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ซึ่งตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมีโอกาสพัฒนาให้เป็นจริงต่อไปในอนาคตได้มากขึ้นกว่าเดิม ฮอนด้าเชื่อในพลังแห่งความฝัน ดังเช่นจุดเริ่มต้นของพวกเราทั้งหมดที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่มาจากความฝันของชายที่ชื่อว่า มร.โซอิจิโร่ ฮอนด้า
เราจึงต้องการให้พวกเขามีพัฒนาการทางความคิดและเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคมในที่สุด เพราะการพัฒนาความคิดจะส่งผลดีต่อทั้งประเทศและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ก็จะมีผลต่อการเรียนรู้ของเขา ซึ่งต่อไปในอนาคตความคิดเหล่านี้ก็สามารถนำไปต่อยอดได้อย่างแน่นอน”
สำหรับค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์ ได้จัดขึ้นภายใน อาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ ณ เมืองโมเตกิ ในมณฑลโตชิกิ บนเทือกเขาฮักโกะ ด้วยพื้นที่ยิ่งใหญ่รวมถึง 640 เฮกเตอร์ (4,000 ไร่) ซึ่งทวินริง หมายถึงสนามแข่งรถ 2 สนามนั่นก็คือ Super Speedway สนามแข่งรถวงรีสไตล์อเมริกัน และ Road Course สนามแข่งสไตล์ยุโรป ซึ่งยังได้ใช้เป็นสนามแข่งขันรถยนต์ระดับโลกอย่าง Moto GP ซูเปอร์ฟอร์มูล่า (Super Formula) ซูเปอร์จีที (Super GT) เอ็มเอฟเจ ซูเปอร์ไบค์ (MFJ Superbike) มอเตอร์ไซค์ไต่เขาชิงแชมป์โลก (Trial World Championship)
โดยกิจกรรมที่เหล่านวัตกรตัวน้อยทั้ง 12 คนได้สัมผัสเป็นอย่างแรกได้แก่ การเรียนรู้วิธีการขับขี่ปลอดภัย บนสนามทดสอบกับรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นจิ๋ว โดยมีครูฝึกขับขี่ปลอดภัยชาวญี่ปุ่นคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ต่อจากนั้นก็ไปเยี่ยมชม Honda Collection สถานที่ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมยนตรกรรมของฮอนด้าทุกชิ้นกว่า 60 ปี ที่ภายในมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของฮอนด้ากว่า 300 คัน ตั้งแต่ยุคแรกๆ ในประวัติศาสตร์ของฮอนด้า ไปจนถึงยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งรถยนต์ไฮบริด รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถ Fuel Cell (FCX) รวมไปถึงรถจักรยานติดเครื่องยนต์ รถแข่งต่าง ๆ มากมาย
และน้องๆ ยังได้พบกับ “อาซิโม” หรือ ASIMO (Advanced Step in Innovative Mobility) หุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ที่สุดในโลกของบริษัทฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 2543 และได้รับการพัฒนาขีดความสามารถด้านต่างๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้มีความเหมือนมนุษย์มากที่สุด
จนทำให้อาซิโมรุ่นปัจจุบัน สามารถออกท่าทางต่างๆ ได้มากมาย สามารถเดินและวิ่งได้อย่างอิสระและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ ขึ้นบันได หรือเต้นรำท่าต่างๆ รับรู้ลักษณะกิริยาท่าทางของมนุษย์ สามารถจดจำใบหน้าและเรียกชื่อของคนได้มากกว่า 200 คน และความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย
และนอกจากการสัมผัสโลกแห่งความเร็วและเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว เหล่านวัตกรน้อยยังได้เรียนรู้กับธรรมชาติในบริเวณ ป่าเฮลโล วูดส์ ภายในอาณาจักรฮอนด้า ที่ได้รับการฟื้นฟูดูแลโดยเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าของฮอนด้า พื้นที่ทั้งหมดเป็นป่าต้นสนและโอ๊ค
โดยทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยภายในบริเวณป่าเฮลโล วูดส์นี้จะเป็นการอยู่ด้วยกันอย่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่าที่มีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงนกจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในบ้านนกที่ได้รับการออกแบบโดยทีมวิศวกรฮอนด้า ซึ่งมาร่วมออกแบบบ้านนกที่มีความโดดเด่น สร้างสรรค์ สวยงาม ทั้งยังเหมาะกับประเภทและขนาดของนกแต่ละชนิดด้วย
โดยบ้านนกเหล่านี้เป็นงานที่ทำขึ้นจากเศษไม้ที่เหลือใช้จากในป่า เป็นการปลูกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงคุณค่าของป่าและเข้าใจในการดำรงชีวิตอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิตและธรรมชาติในโลกแห่งเทคโนโลยีที่ล้ำหน้านี้
ทั้งนี้สนามแข่งทวิน ริง โมเตกิ ถูกสร้างขึ้นให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นป่าโปร่ง และเทือกเขาเป็นสนามทดสอบรถยนต์ที่คำนึงถึงเทคโนโลยีในการผลิต รวมทั้งสามารถตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดหลักของการสร้างสนามแข่ง พื้นที่ทุกตารางนิ้วของที่นี่ต้องคำนึงถึงการรักษาธรรมชาติ ที่ประกอบด้วยผืนป่ารายรอบและการรักษาระบบน้ำตามธรรมชาติไว้ให้ได้มากที่สุด ด้วยการพยายามเพิ่มปริมาณป่าและต้นไม้ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ภายในทวิน ริง โมเตกิ ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว 135 ห้อง และสถานที่กิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้ง “ฮอนด้า คอลเลกชั่น ฮอลล์” (Honda Collection Hall) สถานที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นหลากหลายจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของฮอนด้า “ป่าเฮลโล วูดส์” (Hello Woods) ป่าลูกโอ๊คและนัทหลากชนิด แหล่งพักพิงของสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ อยู่ร่วมกันตามระบบนิเวศ และ “ศูนย์ฝึกการขับขี่ปลอดภัย” (Active Safety Training Park) ที่สามารถสัมผัสสถานการณ์อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจริงบนท้องถนน ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขณะสนุกสนานไปกับการขับขี่และบังคับรถ
Comments
comments