มินิ จัดกิจกรรม The ALL-New MINI Countryman Exclusive Preview สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ มินิ คันทรีแมน
มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษ The ALL-New MINI Countryman Exclusive Preview นำลูกค้าและสื่อมวลชนมุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสัมผัสรถยนต์มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่พร้อมประสบการณ์การขับขี่เพื่อทดสอบสมรรถนะก่อนใครเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
กับบรรยากาศธรรมชาติแบบสบาย ๆ แนวคันทรีไซด์แคมปิ้ง เพื่อ”ADD STORIES” พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และเพิ่มเรื่องราวให้กับชีวิตคุณไปกับ มินิ คันทรีแมน ก่อนการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show 2017 ในวันที่ 29 มีนาคม 2560
ปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ เป็นรถยนต์ที่ถูกพัฒนาจากรถยนต์ขนาดเล็ก ไปสู่รถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมี่ยม คอมแพ็คในรูปแบบ “Sport Activity Vehicle” ที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบ “go-kart feeling”
อีกทั้งดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้นทุกการใช้งานของผู้ขับขี่
โดยเฉพาะกลุ่มที่รักในการเดินทาง ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และใช้งานในชีวิตประจำวันสำหรับการขับขี่ในเมือง เราจึงมั่นใจว่ามินิ คันทรีแมน โฉมใหม่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับคนรักมินิเจเนอเรชั่นใหม่และประสบความสำเร็จในประเทศไทยอย่างแน่นอน”
มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ กับเครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์สนุกทุกการขับขี่
มินิ คันทรีแมน เจเนอเรชั่นที่สอง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด มินิ TwinPower Turbo ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และการตอบสนองที่ดีขึ้น มินิ คันทรีแมน จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน
คันทรีแมน เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,300 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 148 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่น ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆที่มากับตัวรถ
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 143 กรัมต่อกิโลเมตร
และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์พร้อมมัลติฟังก์ชั่นลาย MINI Yours ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เพื่อให้ขับขี่ได้สนุกทันใจ ซึ่งทำให้ทั้งสองรุ่นนี้มีสมรรถนะยอดเยี่ยมเทียบเท่ากลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน
ดีไซน์โดดเด่น กว้างขวางยิ่งขึ้น ตอบสนองทุกการใช้งาน
มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ ที่มีขนาดรถยนต์ที่ใหญ่และกว้างขึ้นกว่าเดิม ด้วยขนาดความยาวที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร
ด้านรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยดีไซน์ของกรอบไฟหน้าและหลังแบบแนวตั้ง พร้อม LED (เฉพาะในรุ่น Hightrim) ไฟ Day time running lights แบบวงแหวนรอบเป็นครั้งแรก
กระจังหน้าและฝาครอบไฟเลี้ยวด้านข้างที่มีรูปแบบเฉพาะของคูเปอร์และคูเปอร์ เอส ด้านข้างถูกดีไซน์ใหม่ให้เกิดเป็นเส้นสายลากตั้งแต่บังโคลนหน้าด้านบนลงสู่ประตูหน้าหลังด้านล่างและลากขึ้นด้านบนของบังโคลนท้าย ราวหลังคาที่มาพร้อมกับราวประตูด้านล่างสี Silver
ภายในถูกดีไซน์ใหม่ทั้งหมดในส่วนแดชบอร์ดซึ่งใช้วัสดุคุณภาพดีออกแบบด้วย 3 เลเยอร์ และด้วยขนาดรถที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างมากยิ่งขึ้น
ทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder room มินิ คันทรีแมน ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว และช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้นโดยมีความจุมากถึง 450 ลิตรและยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานต่าง ๆ
ฟีเจอร์ล่าสุดและนวัตกรรมใหม่
8.8” touch screen หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว มาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) เป็นครั้งแรก บริเวณกลางแผงคอนโซลรถ ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Navigation ข้อมูลของตัวรถ ความบันเทิง และโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่
ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย และ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ ดูการจราจร ซึ่งสามารถเชื่อมกับสมาร์ทโฟน
MINI Logo Projection มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ยังมาพร้อมไฟ LED Welcome Light ซึ่งแสงไฟส่องจากใต้กระจกมองข้างฝั่งคนขับ ฉายโลโก้มินิบนพื้นทุกครั้งที่เปิดประตูเพื่อเริ่มต้นการเดินทางและเมื่อปิดประตูล๊อครถ
Picnic Bench บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายของมินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ มี MINI Picnic Bench ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับสองคนได้
Automatic operation of tailgate / Comfort access system with easy opener function
ฝากระโปรงท้าย สามารถควบคุมการเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าเพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น หรือสามารถเปิดด้วยปุ่มด้านประตูข้างคนขับและปิดด้วยปุ่มที่ฝากระโปรงท้าย
อุ่นใจทุกเส้นทางกับโปรแกรมบำรุงรักษาและการรับประกัน
นอกเหนือจากสมรรถนะและดีไซน์ที่โดดเด่นของมินิทุกรุ่นแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดคือความสบายใจของลูกค้ากับโปรแกรม MINI Service Inclusive อภิสิทธิ์พิเศษสุดสำหรับเจ้าของรถมินิ คุ้มครองรถให้ขับเคลื่อนไปในทุกเส้นทางอย่างราบรื่น
โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับกำหนดใดที่ถึงก่อน) นอกจากนี้ มินิยังมีโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองเป็นตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย