บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยยอดขายเดือนแรก พร้อมอวดโฉมทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใหม่จากทั้งสามแบรนด์
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดฉากศักราชใหม่ด้วยยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม 2560 ด้วยยอดรวมจากบีเอ็มดับเบิลยู และมินิกว่า 745 คัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 22%
ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายเลขสามหลักในเดือนมกราคมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจ
โดยส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ 110 คันในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว ถือเป็นสถิติใหม่หลังประสบความสำเร็จ ในฐานะตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นอันดับที่สามของบีเอ็ม ดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วโลกในปี 2559 ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ก็เริ่มต้นปีด้วยสถิติยอดขายทั่วโลกสูงสุดในเดือนมกราคมด้วยเช่นกัน
สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จบนเวทีโลกในปี 2559 ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม 2560 จากทุกแบรนด์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รวมกันถึง 163,288 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตปีต่อปีที่ 6.8%
ส่วนในประเทศไทย เราก็เริ่มต้นปีได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยสถิติยอดขายประจำเดือนมกราคมที่สูงสุดในประวัติการณ์ การเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยยอดขายที่ดีเช่นนี้ ทำให้เรามองเห็นความต้องการของตลาดอันแข็งแกร่งที่มีต่อสินค้าของเราอย่างชัดเจน”
“การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อบีเอ็มดับเบิลยู และแน่นอนว่าบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยการสร้างสรรค์และนำเสนอยนตรกรรมพรีเมียมระดับโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรายังมีรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์อีกมากมายกว่า 20 รุ่นที่เตรียมเปิดตัวออกสู่ตลาด เราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าปี 2560 จะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”
ไฮไลท์สำคัญของบีเอ็มดับเบิลยูในปีนี้ ได้แก่ การเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดานรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ด้วยงานออกแบบภายใต้แนวคิด BMW EfficientLightweight ซึ่งเน้นการใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าที่มี ความทนทานสูงแต่น้ำหนักเบา จึงช่วยให้ซีรีส์ 5 รุ่นใหม่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม
พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล ปลอดภัย ยึดเกาะถนน และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางของผู้โดยสารตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5
ส่วนมินิ ประเทศไทย เตรียมแนะนำ มินิ คันทรีแมน รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเปิดตัวให้แฟนมินิในประเทศไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในงาน Bangkok International Motor Show 2017 เร็วๆ นี้ ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จะเผยโฉมมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดอีกสองรุ่นอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Racer และ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำให้บริษัทสามารถผสมผสานบริการทางการเงินและกระบวนการในการจำหน่ายรถยนต์ได้อย่างสอดคล้องกัน
จึงประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของผู้จำหน่าย ทั้งยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าและบริการต่างๆ ที่หลากหลายและครอบคลุม”
“เรายินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนทำสถิติใหม่ได้อีกครั้งในปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่เราฉลองครบรอบ 15 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเราได้มียอดสัญญาเช่าซื้อรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 35,900 ล้านบาทในปี 2559 และเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตขึ้น อย่างมั่นคงในปี 2560 นี้”
“เรามุ่งมั่นที่จะดูแลและมอบบริการชั้นเยี่ยมให้แก่ลูกค้าเพื่อให้การเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ่านการออกแบบสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าและให้บริการระดับพรีเมี่ยมผ่านแคมเปญการตลาดต่าง ๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส จะเปิดตัวแคมเปญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้เสมอมา”
“เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ยังได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนงานด้านการขายในหลายปีที่ผ่านมา โดยทำงานผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดของทีม Customer Interaction Centre (CIC) และผู้จำหน่ายของเรา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการนำเสนอสินค้าและสุดยอดบริการที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
2017: เปิดตัวรุ่นใหม่เติมเต็มประสบการณ์การขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน ใหม่: บีเอ็มดับเบิลยู 530i และบีเอ็มดับเบิลยู 520d
นอกจากน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัมแล้ว ตัวถังของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน ใหม่ ยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ กระจายน้ำหนักอย่างสมดุล และมีแรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน จึงทำให้ผสมผสานการขับขี่ที่คล่องตัวเข้ากับความนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารได้อย่างลงตัว
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน ใหม่ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะพร้อมระบบสัมผัส iDrive พร้อมแสดงระบบนำทาง ระบบโทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และระบบการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว โดยรองรับการควบคุมผ่านทาง iDrive Controller สั่งงานด้วยเสียงหรือท่าทาง หรือสัมผัสที่หน้าจอโดยตรง
ดีไซน์ภายนอก โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับการออกแบบมาเพื่อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน ใหม่ โดยเฉพาะ โดยมีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม แสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง หรือระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 500 เมตร
ภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มพื้นที่เก็บของและพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) ยังช่วยเสริมการเก็บเสียงของห้องโดยสารเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดของผู้โดยสาร
ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน บีเอ็มดับเบิลยู 530i ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมมอบกำลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร
และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 129 กรัมต่อกิโลเมตร ลดลงจากรุ่นก่อน 11 เปอร์เซ็นต์ สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport: 4,399,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ส่วนรุ่นดีเซลอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 520d ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 132 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.5 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury: 3,899,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่
มินิ คันทรีแมน เจเนอเรชั่นที่สอง จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show 2017 ใน 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ มินิ คูเปอร์ คันทรีแมน มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม
ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี มินิ Twinpower Turbo ที่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่และกำลังขับเคลื่อน มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ ได้พัฒนาในด้านดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นรอบคันและมิติรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตอบสนองการใช้งานพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ในรูปแบบรถยนต์เอนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ค
ด้วยขนาดความยาวที่มากขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร ทำให้มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว และช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นของผู้โดยสาร บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านหลังยังมี MINI Picnic Bench
ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกบริเวณท้ายรถได้ ส่วนฝากระโปรงท้ายควบคุมการปิดเปิดด้วยระบบไฟฟ้าเพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น หรือเปิดจากรีโมตคอนโทรลและปิดด้วยปุ่มที่ฝากระโปรงท้าย
นอกจากนี้ หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ที่อยู่บริเวณกลางแผงคอนโซลรถมาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) เป็นครั้งแรก พร้อมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่
ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับการขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นแผนที่นำทาง แสดงพิกัดของรถ ดูการจราจร ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ และสมาร์ทโฟน
มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่: ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน ใหม่
ผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหราเต็มเปี่ยมของมินิรุ่นล่าสุด ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน ใหม่ สมรรถนะแบบสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 เจเนอเรชั่นล่าสุด ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ทำงานด้วยเทคโนโลยี มินิ TwinPower Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า
โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport Automatic 8 สปีด ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว ตอบสนองฉับไวทุกโจทย์การขับขี่ พร้อมท้าทายบนท้องถนน ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด
นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน ใหม่ ยังมีเอกลักษณ์รูปแบบเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น ชุด aerodynamics ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke two-tone ขนาด 19 นิ้ว
พร้อมดีไซน์และแต่งในสไตล์ John Cooper Works ทั้งภายนอกภายใน พวงมาลัยหนังแท้พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นรวมถึงเบาะสปอร์ตพิเศษ John Cooper Works ระบบแสดงผล Head-Up Display และจอขนาด 8.8 นิ้ว ที่อยู่บริเวณกลางแผงคอนโซลรถมาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) ใหม่ล่าสุด
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน ใหม่: 3,588,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ใหม่: สไตล์คลาสสิคอันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ พร้อมให้เลือกขับขี่อีกสองรุ่น
บิ๊กไบค์ในเซ็กเมนท์ Heritage บีเอ็มดับเบิลยู R nineT มาพร้อมรูปโฉมอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโมเดลระดับคลาสสิกของค่ายอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R32 โดยบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดเผยโฉมมอเตอร์ไซค์ R nineTรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นที่ได้รับการปรับแต่งให้เรียบง่ายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure เป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิคพันธุ์แท้ที่ได้รับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัย เหมาะกับ การขับขี่บนท้องถนนทั้งในเมืองและแถบชานเมือง
ด้วยโครงสร้างที่มีความคล่องตัว ผนวกกับดีไซน์อลูมิเนียมหรูบริเวณที่พักเท้าและแกนโช๊คหน้า ส่วนตัวถังและบังโคลนด้านหน้าโดดเด่นด้วยสีเทา Catalano Non-metallic ตัดกับโช๊คและระบบขับเคลื่อนสีดำ ให้ความรู้สึกคลาสสิคและทรงพลังในแบบมอเตอร์ไซค์ในแบบ Heritage ตัวจริง
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Racer เป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตคลาสสิค ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์ไซค์แห่งยุค 70s ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะหมอบต่ำและคล่องตัว ผสมผสานกลิ่นอายของความร่วมสมัยกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว
ซึ่งเห็นได้ชัดจากหน้ากากแบบ half-fairing ที่หุ้มเบาะหนั่งหลังแบบโค้ง แฮนด์บังคับแบบหมอบต่ำ และที่พักเท้าที่วางไปทางด้านหลัง ตัวเฟรมสีเงินอลูมิเนียมแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างตัดกับระบบขับเคลื่อนสีดำอย่างชัดเจน ตอกย้ำความเป็นมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตในตำนานที่พร้อมมอบความสนุกสนานในทุกโค้งของการขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Racer และ R nineT Pure: ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย
เดินหน้าต่อเนื่องสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน ด้วยการขยายสถานีชาร์จ BMW i pure Wallbox และ สายประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนของอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยขยายสถานีชาร์จ BMW i pure Wallbox ซึ่งพร้อมให้บริการชาร์จแบตเตอรี่บีเอ็มดับเบิลยู ตระกูล iPerformance ไม่คิดค่าบริการใด ๆ
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์จากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ สู่โรงแรมในระดับห้าดาวสามแห่ง ได้แก่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ และโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เพื่อการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
เพิ่มเติมจากสถานีบริการที่เดิมมีอยู่สองแห่งบริเวณโซนจอดรถยนต์พิเศษของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเพิ่มสถานีชาร์จเป็น 2 จุดที่อาคารออล ซีซั่น เพลส ทำให้ปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยู มีบริการสถานีชาร์จ BMW i Wallbox Pure เพื่อการใช้งานสำหรับสาธารณะรวมทั้งหมด 6 สถานีในประเทศไทย
นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังพัฒนาศักยภาพในการเดินหน้าสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด โดยเริ่มสายการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330eและบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e
ซึ่งเป็นรถยนต์ที่สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์ได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยปราศจากการปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสีย ตอกย้ำความสำเร็จของของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างอนาคตแห่งความยั่งยืน
ขยายขอบเขตบริการระดับโลกสู่ภาคใต้ เปิดตัวโชว์รูม มิลเลนเนียม ออโต้ ภูเก็ต และสยาม มอเตอร์ราด
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ขยายขอบเขตให้บริการสู่พื้นที่ภาคใต้ด้วยการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจร มิลเลนเนียม ออโต้ ภูเก็ต สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าตลาดพรีเมี่ยมในตลาดอันดามันภาคใต้ซึ่งครอบคลุมถึง 3 จังหวัดเศรษฐกิจ
ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ขณะที่ทางสยาม มอเตอร์ราด ได้เปิดตัวโชว์รูมแห่งแรกในภาคใต้ตอนล่างเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดบิ๊กไบค์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และมอบบริการคุณภาพระดับโลกให้กับฐานลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดในแถบนี้
ทั้งนี้ โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจร มิลเลนเนียม ออโต้ ภูเก็ต สามารถรองรับรถยนต์ได้กว่า 38 คัน แบ่งเป็นโซนจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 8 คัน มินิ 6 คัน และรถยนต์คุณภาพที่ผ่านการใช้งานแล้ว ตามโปรแกรมบีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็คชั่นและมินิ เน็กซ์ 24 คัน และประกอบด้วยช่องบริการทางเทคนิครวม 10 ช่อง
ส่วนโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรสยาม มอเตอร์ราด ภูเก็ต ครอบคลุมพื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร โดยมีมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจัดแสดงอย่างครบครัน