“ศิลปะเพื่อสังคม” ในแบบครูศิลปะ “อารี สุทธิพันธุ์”
คนส่วนใหญ่มักนึกคิดว่า “ครูศิลปะ” เป็นครูที่ไม่ค่อยมีบทบาทนักในสังคมเมื่อเทียบกับครูศาสตร์อื่น ๆ เพราะในอดีตศิลปิน จิตรกร มักถูกตีตราว่าเป็น “ศิลปินไส้แห้ง” ทว่าความรู้และความเข้าใจที่หยั่งรากลึกลงในความมุ่งมั่นของการถ่ายทอดวิชาการด้านศิลปะของศาสตราจารย์พิเศษ อารี สุทธิพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2555
ตลอดทั้งชีวิตของการเป็นครูสอนศิลปะนั้น ได้ช่วยเปลี่ยนมุมมองคติความเชื่อเก่า ๆ เกี่ยวกับวิชาการด้านศิลปะและผู้ที่เป็นศิลปิน ก็ด้วยความเป็นครูศิลปะที่คิดนอกแบบ คัดค้านการเรียนการสอนศิลปะด้วยการเลียนแบบ กระทั่งได้ชื่อว่าเป็นคนต้นแบบของการสอนและสร้างสรรค์ศิลปะไปปรับใช้ในชีวิตจริง ในความเป็น “ครูศิลปะที่ทำงานศิลปะเพื่อสังคม” มานานถึง 46 ปี
วันนี้ มูลนิธิอารี สุทธิพันธุ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จัดให้มีกิจกรรม workshop เนื่องใน “วันครูศิลปะอารี สุทธิพันธุ์” โดยการเสวนาเรื่อง “สอนศิลปะอย่างไรให้เด็กเกิดสุนทรียภาพ” จัดประกวดภาพวาดเหมือนจริงในหัวข้อแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 จากนักเรียนใน 36 พื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครและชุมชนจากต่างจังหวัด
ตามแนวคิดของครุอารีที่เชื่อว่า เด็กคือผู้มีจินตนาการและจินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ที่ดีได้ในสังคม ศิลปะนั้นต้องมีไว้เพื่อสังคม ศิลปินควรต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อสร้างงานศิลปะเพื่อสังคม จึงจะเรียกว่าศิลปะมีส่วนช่วยสร้างสังคมให้ดี
ครั้งนี้จึงได้เห็นพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกวัยเด็กอนุบาล วัยประถมต้น มาร่วมแข่งขันระบายภาพวาดแต้มลงสีกันอย่างสนุกสนาน โดยการประกวดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ เด็กอนุบาล 5-6 ปี ประกวดวาดภาพหัวข้อ “ฉันรักในหลวง”
เด็กประถมต้น 7-9 ปี ประกวดวาดภาพหัวข้อ “ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9“ และเด็ก 10-12 ปี ประกวดวาดภาพหัวข้อ “ความดี วิถีพอเพียง” โดยมีโรงเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการนับร้อยแต่ก็ผ่านการคัดเลือก 36 แห่ง
ซึ่งผลรางวัลแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เรื่องราว และ สร้างสรรค์ (ยอดเยี่ยม ดีเด่น ชมเชย) และทุกโรงเรียนสามารถคว้ารางวัลในแต่ละประเภททุกระดับไปครองได้ ตามความสามารถทางศิลปะ
นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิลปินจิตรกรชั้นแนวหน้า ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมาร่วมวาดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 บนเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ต่อมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยชื่อพระราชทานจากพระองค์ท่าน อีกทั้งยังเป็นการนำศิลปะสู่ชุมชนเพื่อสร้างสุขแก่สังคมในการเป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม
ผศ.ดร.ระวิวรรณ วรรณวิไชย คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว กล่าวว่า “ครูอารีคือผู้วางรากฐานศิลปศึกษาให้กับประเทศไทยและเป็นบรมครูศิลปะที่มีบทบาทในการบุกเบิกวิชาการศิลปศึกษาและก่อตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว กิจกรรมการประกวดวาดภาพที่เลือกเด็ก 3 กลุ่มวัยนี้ก็เพื่อต้องการให้เห็นว่าศิลปะเกิดจากจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เด็กคือผู้ที่มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะของเขาจะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ อารมณ์ ศิลปะยังเป็นเครื่องมือในการบำบัดเยียวยาผู้ที่ตกอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่หดหู่แม้แต่ผู้ต้องขัง ผู้พิการ ผู้มีความบกพร่องด้านต่าง ๆ ในลักษณะของศิลปะบำบัด
ซึ่งปัจจุบันศิลปะได้เข้าไปมีอิทธิพลบทบาทมากในหลายด้านของการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ครูอารีคือครูสอนศิลปะที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ให้อิสระทางความคิดเพราะครูเชื่อว่าคนเป็นครูนั้น ให้ความรักศิษย์ได้ ให้ความคิดไม่ได้ แต่สอนให้คิดได้
งานครั้งนี้มิใช่เพียงแค่การแสดงมุทิตาจิตต่อบรมครูศิลปะอารี สุทธิพันธุ์ ในวัย 86 ปีวันนี้ แต่เป็นการทำให้รู้ว่าศิลปะคือเครื่องมือสื่อสารที่มีไว้เพื่อสร้างสังคม ศิลปินก็ต้องทำงานเพื่อสังคมส่วนรวมเฉกเช่นที่ครูอารีทำมาตลอด ท่านจึงเป็นครูศิลปะเพื่อสังคมโดยแท้จริง”