“อันตวน บาร์เตส” สร้างความมั่นใจพนักงาน เชื่อมั่นทีมเวิร์ค นำนิสสันพิชิตเป้าหมาย
หลังจากเข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการ “อันตวน บาร์เตส” ได้พบปะพนักงานนิสสันส่วนงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนของสำนักงานและโรงงานผลิต ผ่านกิจกรรม Town Hall
โดยสิ่งที่เขาเน้นย้ำกับพนักงานคือ ความภาคภูมิใจในความสำเร็จของนิสสันระดับโลก เทคโนโลยี นวัตกรรมล้ำสมัยของนิสสัน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และความสำคัญของตลาดในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่นในการทำงาน มีเป้าหมายเดียวกัน และการทำงานเป็นทีมจะเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ
อันตวน บาร์เตส เป็นชาวฝรั่งเศส ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเริ่มทำงานที่นิสสันตั้งแต่ปี 2545 มีประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 15 ปี ด้านการตลาดและการขาย ในภูมิภาคยุโรป และตะวันออกกลาง
อันตวน กล่าวว่า ตนมีความรักและความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะทำงานในแวดวงอุตสาหกรรม ยานยนต์ ซึ่งเมื่อมาทำงานนิสสัน ก็ได้รับโอกาสในการทำงานอย่างมากมาย โดยความโดดเด่นของนิสสัน ที่ถึงแม้จะมีรากฐานแบบชาวญี่ปุ่น แต่ก็มีความเป็นสากล และมีความหลากหลายในวัฒนธรรม อันเป็นจุดแข็งของนิสสัน
ดังจะเห็นได้จากเมื่อเร็ว ๆ นี้ พันธมิตรเรโนลต์ นิสสัน ได้ต้อนรับ บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้ามาเป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์ธุรกิจ ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ของกลุ่มพันธมิตรในปีงบประมาณ 2016 รวมกันแล้วคาดว่าจะสูงถึง 10 ล้านคัน หรือมียอดจำหน่ายรถยนต์เป็นอันดับ 3 ของโลก จึงอยากให้พนักงานมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่เติบโตเช่นนี้
“ขณะที่ด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ ผลการวิจัยของอินเตอร์แบรนด์ที่ทำการจัดอันดับแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดระดับโลก นิสสันได้รับการจัดอันดับเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วสูงสุดเป็นอันดับสี่ของโลกด้วย นิสสัน ยังมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
โดยนำเทคโนโลยีระดับโลกมาติดตั้งและใช้ในรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ซึ่งความก้าวหน้าของนิสสันที่ได้รับการยอมรับขณะนี้ก็คือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่นิสสันเรียกว่า “ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ” (Intelligent Mobility) โดยนิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้ารุ่นที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง”
อันตวน ได้กล่าวถึง นิสสันในภาคพื้นเอเชียและโอเชียเนีย ว่าได้มีการสร้างรากฐานที่มั่นคง โดยมีการลงทุนพัฒนานวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย เช่นเดียวกับการพัฒนาในด้านฐานการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสันได้มีการลงทุนมากกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการขยายศูนย์การวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย โดยมีการสร้างศูนย์ทดสอบรถยนต์ที่ทันสมัย รองรับการผลิตรถยนต์เพื่อส่งให้กับตลาดใน 90 ประเทศทั่วโลก
อันตวน กล่าวถึงตลาดในประเทศไทยว่า เป็นประเทศที่ตลาดมีการแข่งขันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของนิสสันทั้งในด้านตัวเลขการขายและการผลิต
ซึ่งแม้ว่าจะมารับตำแหน่งในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่ก็มองว่าเป็นโอกาสมากกว่า จึงอยากให้พนักงานมีความเชื่อมั่นและมีความกล้าหาญในการก้าวไปข้างหน้า ส่วนการเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารบริษัทนั้น ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อทิศทางการบริหารที่ได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยนิสสันยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบริการลูกค้าและการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานดีเยี่ยม
นิสสัน เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในปี 2495 ปัจจุบันมีโรงงานผลิตรถยนต์ 2 แห่ง ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ครบทุกเชกเมนต์ โดยในตลาดส่งออก นิสสันส่งออกรถยนต์ไปใน 114 ประเทศ มียอดส่งออกสะสมแล้วกว่า 800,000 คัน สำหรับในตลาดอีโคคาร์ นิสสันประสบความสำเร็จและยังคงเป็นผู้นำตลาด โดยมียอดการผลิตสะสมรวมกว่า 500,000 คัน ปัจจุบันนิสสันมีเครือข่ายผู้จำหน่ายคลอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน กว่า 200 แห่ง